สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก ระบุ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว หลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 กำลังเป็นไปได้ดี และคาดว่า “จีน” จะกลายเป็นตลาดท่องเที่ยว-เดินทาง ขนาดใหญ่สุดของโลกภายใน 3-5 ปีข้างหน้า
นางจูเลีย ซิมป์สัน ประธาน และซีอีโอ สภาการเดินทางและการท่องเที่ยวโลก (ดับเบิลยูทีทีซี) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัว ระหว่างการประชุมสภาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวโลก (จีทีอีเอฟ) ที่มาเก๊าว่า ในที่สุด จีนได้เปิดประเทศอีกครั้ง และโลกกำลังเห็น “การฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์”
นางซิมป์สัน ตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนเกิดโรคระบาด การเดินทางและการท่องเที่ยวคิดเป็น 1 ในทุก ๆ 10 ดอลลาร์ ที่สร้างรายได้บนโลก คิดเป็น 10% ของเศรษฐกิจโลก และเป็น 1 ใน 10 ของตำแหน่งงาน โรคระบาดทำให้เกิดการตกงานจำนวนมาก และธุรกิจต้องปิดตัวลง
แต่ภายในสิ้นปี 2566 ภาคการท่องเที่ยวควรสามารถกลับมาสร้างรายได้ทั่วโลกที่ระดับ 10 ล้านล้านดอลลาร์
ข้อมูลขององค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ) บ่งชี้ว่า การท่องเที่ยวระหว่างประเทศได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากวิกฤติที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคมที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วน 84% ของระดับก่อนเกิดโควิด-19 ระบาด
ยูเอ็นดับเบิลยูทีโอ ยังมองว่า การเพิ่มประสิทธิภาพ และการปรับมาตรการรับมือโควิด-19 ในจีน รวมถึงการเปิดตลาด และจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ในเอเชียอีกครั้งนั้น จะช่วยส่งเสริมการเดินทางทั้งภายในภูมิภาค และส่วนอื่น ๆ ของโลกต่อไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ท่องเที่ยวฟื้น หนุน จีดีพี ‘เวียดนาม’ ไตรมาส 3/66 โต 5.33%
- ‘ญี่ปุ่น’ จ่อขยายระบบ ‘วีซ่าอิเล็กทรอนิกส์’ รองรับท่องเที่ยวฟื้นตัว
- ต่างชาติแห่เที่ยวลาว แค่ครึ่งปี นักท่องเที่ยวทะลุ 1.6 ล้านคน