ประธานประเทศเกาหลีเหนือ “คิม จอง อึน” เดินทางถึงกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามแล้วในวันนี้ (26 ก.พ.) ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุด และฝูงชนที่มารอต้อนรับอย่างเนืองแน่น ก่อนที่จะเริ่มประชุมสุดยอดครั้งที่ 2 กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.)
หลังจากการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ ที่สิงคโปร์ เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว โดยที่ไม่ได้ผลออกมาเป็นรูปธรรมเท่าใดนัก เหล่านักวิเคราะห์มองว่า การประชุมครั้งที่ 2 ควรจะต้องมีมาตรการที่มีความชัดเจน ที่มุ่งเป้าไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมากขึ้น
ดงซาง เมืองชายแดนของเวียดนาม ที่ปกติมักเงียบเหงา มีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างมาก เมื่อผู้นำอายุน้อยแห่งเกาหลีเหนือ เดินทางด้วยรถไฟหุ้มเกราะ เป็นระยะทาง 4,000 กิโลเมตร ใช้เวลาราว 2 วันครึ่ง ผ่านทางชายแดนมาถึงเมืองนี้
คิมลงมาจากรถไฟ ท่ามกลางการต้อนรับของกองทหารเกียรติยศในชุดขาว โดยเขามีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม โบกมือทักทายผู้มารอต้อนรับ ขณะเดินไปตามพรมแดง เพื่อขึ้นรถที่มารอรับอยู่ ท่ามกลางกลุ่มผู้ช่วย และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
ฮวง ถิ ทุย เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น บอกว่า เธอมายืนรอต้อนรับผู้นำเกาหลีเหนือ ท่ามกลางสายฝนมาตั้งช่วงเช้ามืดแล้ว โดยคิม จอง อึน ถือเป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนแรกที่เดินทางมาเยือนเวียดนาม นับตั้งแต่ที่คิม อิล ซุง ปู่ของเขาเดินทางมายังประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้ในปี 2507
“ฉันรู้สึกตื่นเต้นมาก ตอนที่ถูกบอกให้เข้าประจำที่ เมื่อรถไฟมาถึง เรามองเห็นท่านผู้นำจากที่ไกล ฉันมีความสุข แบบอธิบายไม่ถูกเลย”
ขณะที่ทรัมป์ มีกำหนดเดินทางด้วยเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน มาถึงเวียดนามราวกลางดึกวันนี้ ซึ่งเขาได้ทวีตข้อความว่า ตั้งหน้าตั้งตารอการประชุมครั้งที่ 2 ที่มีความก้าวหน้าอย่างมาก
รายละเอียดเกี่ยวกับการประชุมครั้งที่ 2 นี้ มีออกมาน้อยมาก โดยโฆษกทำเนียบขาว บอกกับผู้สื่อข่าวแต่เพียงว่า ผู้นำทั้ง 2 มีกำหนดรับประทานอาหารเย็นร่วมกันในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.) พร้อมกับบรรดาที่ปรึกษาคนสนิท
ทั้งนี้ ความคืบหน้าด้านการทูตของ 2 ประเทศ นับตั้งแต่การหารือที่สิงคโปร์ ตกอยู่ในภาวะชะงักงัน จากความเห็นที่ไม่ลงรอยกันในเรื่องการจำกัดความถึงการปลอดอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งสตีเฟน บีกัน ผู้แทนพิเศษสหรัฐด้านเกาหลีเหนือ ยอมรับว่า 2 ฝ่ายยังไม่เห็นพ้องกันถึงการกำหนดนิยามคำดังกล่าว
