แอลวีเอ็มเอช โมเอต์ เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตอง จ่อขึ้นแท่นบริษัทใหญ่สุดอันดับ 9 ของโลก เมื่อวัดตามมูลค่าตลาด แทนที่ “เทสลา” หลังเพิ่งเข้ามาอยู่ในอันดับ 10 ได้ไม่กี่วัน
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ราคาหุ้นของ แอลวีเอ็มเอช เครือบริษัทสินค้าหรูสัญชาติฝรั่งเศส พุ่งขึ้น 6.9% ในเดือนเมษายนนี้ ทำให้มูลค่าตลาดของบริษัท เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 500,000 ล้านดอลลาร์ แรงหนุนจากยอดขายในไตรมาสแรกของปี ที่แข็งแกร่งเกินคาด
แอลวีเอ็มเอช เจ้าของแบรนด์หลุยส์ วิตตอง บุลการี จีวองชี และเซโฟรา ยังขึ้นแท่นเป็นบริษัทยุโรปแห่งแรก ที่มีมูลค่าตลาดแตะ 500,000 ล้านดอลลาร์ โดยบริษัทรายงานยอดขายในไตรมาสแรก ของปี 2566 เพิ่มขึ้น 17% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ 2 เท่า
ขณะที่ราคาหุ้นของเทสลาร่วงลง 23% ในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้มูลค่าตลาดร่วงลงมาอยู่ที่ 505,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากการปรับลดราคารถยนต์ บั่นทอนความสามารถในการทำกำไร
อย่างไรก็ดี อันดับความมั่งคั่งของเจ้าของบริษัททั้ง 2 แห่งข้างต้น จากข้อมูลของ Bloomberg Billionaires Index ได้สลับกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดที่เพิ่มขึ้น หนุนให่นายเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ซีอีโอแอลวีเอ็มเอช มีความมั่งคั่ง พุ่งขึ้นแตะระดับเกือบ 212,000 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกในขณะนี้ เทียบกับ นายอีลอน มัสก์ เจ้าของเทสลา ที่ร่วงลงสู่อันดับ 2 โดยมีมูลค่าสินทรัพย์อยู่ที่ 165,000 ล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ แอลวีเอ็มเอช และคู่แข่งแบรนด์สินค้าหรูเจ้าอื่น ๆ ในฝรั่งเศสมีบทบาทต่อตลาดหุ้นยุโรป แบบเดียวกับที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ต่าง ๆ มีต่อตลาดหุ้นสหรัฐ กล่าวคือ เป็นธุรกิจเจ้าตลาดที่ยังคงการเติบโตเอาไว้ได้แม้เศรษฐกิจจะผันผวนก็ตาม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เปิดอันดับมหาเศรษฐีโลกปี 66 ‘เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์’ เบอร์ 1 ‘เจ้าสัวธนินท์’ รวยสุดในไทย
- ‘ยูเออี’ นำเบอร์ 1 เป้าหมาย ‘มหาเศรษฐี’ ทั่วโลกแห่ย้ายไปอยู่-ลงทุน
- ‘อิลอน มัสก์’ หลุดตำแหน่ง ‘บุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก’ ให้เจ้าของ ‘หลุยส์ วิตตอง’
