‘เจพีมอร์แกน’ คาด ‘วิกฤติธนาคาร’ ทำ ‘เศรษฐกิจโลก’ เสี่ยงเจอภาวะ ‘Minsky Moment’

โดย The Bangkok Insight Editorial Team 21 มีนาคม 2566

“เจพีมอร์แกน” คาด เศรษฐกิจโลกเสี่ยงเจอภาวะ “Minsky Moment” หลังตกอยู่ท่ามกลางปัจจัยลบจำนวนมาก ทั้งวิกฤติธนาคาร และภาวะไร้เสถียรภาพ จากเงินเฟ้อพุ่งสูง

ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนทั่วโลก เผชิญกับเหตุการณ์ที่น่าวิตกมากมาย รวมถึงการที่ธนาคาร 3 แห่งในสหรัฐล้มละลาย ตลาดการเงินผันผวนอย่างรุนแรง วิกฤติการเงินที่เกิดขึ้นกับ เครดิต สวิส ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ จนทำให้ยูบีเอส คู่แข่งร่วมชาติ ที่มีขนาดใหญ่กว่าเข้ามาซื้อกิจการ และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนั้น

นักวิเคราะห์จาก เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค วาณิชธนกิจชั้นนำของสหรัฐ ภายใต้การนำของนายมาร์โค โคลาโนวิช ระบุในรายงานถึงลูกค้าว่า เตือนว่า วิกฤติที่เกิดขึ้น ประกอบกับ ภาวะผันผวนในตลาดการเงิน และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ในขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกกำลังต่อสู้กับเงินเฟ้อที่ระดับสูงนั้น ทำให้มีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกจะต้องเผชิญกับภาวะ “Minsky Moment”

ภาวะดังกล่าว ตั้งชื่อตามนายไฮแมน มินสกี้ (Hyman Minsky) นักเศรษฐศาสตร์ชาวอเมริกัน ศาสตราจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ผู้อธิบายถึงช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกมาถึงจุดสิ้นสุดของภาวะเฟื่องฟู ซึ่งจะผลักดันให้นักลงทุนยอมเสี่ยงที่จะกู้เงินเกินตัว จนไม่สามารถชำระคืนได้ และเมื่อถึงจุดนั้น นักลงทุนก็จะเทขายสินทรัพย์ออกมา เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินสดสำหรับชำระหนี้เงินกู้ ซึ่งสถานการณ์เช่นนั้นจะส่งผลให้ตลาดล่มสลายลงในที่สุด

“ต่อให้ธนาคารกลางทั่วโลกประสบความสำเร็จในการควบคุมการลุกลามของวิกฤติภาคธนาคาร แต่ก็จะมีการควบคุมการปล่อยสินเชื่อให้มีความเข้มงวดมากขึ้น เพราะถูกแรงกดดันจากทั้งตลาดการเงิน และหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน”

เจพีมอร์แกน ยังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมระหว่างวันที่ 21-22 มีนาคมนี้ ตามเวลาในสหรัฐ พร้อมแนะนำให้นักลงทุนใช้กลยุทธ์ที่ระมัดระวังในการเข้าลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง และซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย (Defensive) เก็บเอาไว้ในพอร์ต โดยหุ้นปลอดภัยหมายถึงหุ้นที่สามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจได้ดี เช่น หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค