World News

กังวลทรัมป์-อิหร่าน ดันราคาน้ำมันพุ่งสุดรอบ 3 ปีครึ่ง

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) ทะยานขึ้นไปอยู่เหนือระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2557 เป็นต้นมา ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่มากขึ้นว่า สหรัฐอาจถอนตัวออกจากการเจรจาโครงการนิวเคลียร์อิหร่านในเร็ววันนี้

ราคาน้ำมันพุ่งสุดรอบ 3 ปีครึ่ง

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส สัญญาส่งมอบเดือนมิถุนายน ปิดซื้อขายที่ 70.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ สัญญาส่งมอบเดือนเดียวกัน ที่ตลาดลอนดอน ปรับขึ้นมา 1.30 ดอลลาร์ ที่ 76.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แตะระดับสูงสุดนับแต่ปลายปี 2557 เช่นเดียวกัน

แอนดี้ ลิพาว จากลิพาว ออยล์ แอสโซซิเอทส์ ระบุว่า ตลาดกำลังกังวลว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ จะไม่ให้การรับรองว่าอิหร่านปฏิบัติตามข้อตกลงในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งอาจทำให้อิหร่านต้องลดปริมาณส่งออกน้ำมัน ในช่วงเวลาที่ปริมาณน้ำมันดิบสำรองในตลาดกำลังลดลง

ทั้งนี้ บอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ เป็นเจ้าหน้าที่ยุโรปรายล่าสุดที่เดินทางไปเยือนวอชิงตัน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ รักษาข้อตกลงปี 2558 ที่บรรดาชาติมหาอำนาจเห็นพ้องให้ผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบางประการต่ออิหร่าน เพื่อแลกกับการเข้าตรวจสอบกิจกรรมนิวเคลียร์อย่างละเอียด

ขณะที่ทรัมป์ ทวีตว่า จะประกาศการตัดสินใจในวันนี้ (8 พ.ค.) ตามเวลาในสหรัฐ โดยทรัมป์มีเวลาจนถึงวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ที่จะรับรองว่า อิหร่านได้ปฏิบัติตามข้อตกลงควบคุมโครงการนิวเคลียร์ หรือเปิดทางให้มีการฟื้นฟูมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากสหรัฐอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากเรื่องอิหร่านแล้ว บรรดาเทรดเดอร์ยังกังวลถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐ จะดำเนินมาตรการที่แข็งกร้าวมากขึ้นกับเวเนซุเอลา ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อีกรายหนึ่ง หลังจากที่ ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ออกมาเรียกร้องให้ประธานาธิบดีนิโคลาส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา ระงับการเลือกตั้งในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้ ที่ถูกฝ่ายค้านคว่ำบาตร และประกาศว่าเป็นการทุจริต

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight