กระทรวงเกษตรสหรัฐ เสนอปรับปรุงอาหารโรงเรียนให้มีความเค็ม และความหวานลดลง เพื่อแก้ไขปัญหาโรคอ้วน และให้นักเรียนได้รับประทานอาหารโรงเรียน ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ
นายทอม วิลแซ็ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร สหรัฐ แถลงว่า เด็กจำนวนมากไม่ได้รับสารอาหารที่จำเป็น และมีเด็กป่วยเพราะโรคที่เกี่ยวข้องกับอาหารเพิ่มมากขึ้น ผลการวิจัยพบว่า สำหรับเด็กส่วนใหญ่แล้ว อาหารที่โรงเรียน คือมื้อที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดของวัน จึงเป็นมื้อสำคัญ ที่จะทำให้เด็กได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเติบโตที่ดี
กระทรวงได้เสนอมาตรฐานใหม่ที่จะทำให้อาหารของโรงเรียนทั่วประเทศ ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลกลาง ต้องทยอยลดปริมาณโซเดียมรายสัปดาห์ จำกัดปริมาณน้ำตาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารน้ำตาลสูง อย่าง โยเกิร์ต และ ซีเรียล ที่เป็นอาหารเช้า ให้เด็กรับประทานนมไขมันต่ำ-ไร้ไขมัน และเน้นธัญพืชแบบไม่ขัดสี
ข้อมูลของทางกระทรวง ยังแสดงให้เห็นว่า ในแต่ละปีมีเด็ก 30 ล้านคนเข้าร่วมโครงการอาหารกลางวันโรงเรียนแห่งชาติ ที่จัดสรรอาหารฟรี หรือราคาถูก ให้แก่โรงเรียนรัฐ และโรงเรียนเอกชน ที่ไม่แสวงหากำไร และมีเด็ก 15 ล้านคนเข้าร่วมโครงการอาหารเช้าโรงเรียน โดยกระทรวงจะเปิดให้ประชาชนแสดงความเห็นเป็นเวลา 60 วัน จากนั้นจะนำมาตรฐานใหม่นี้มาใช้กับภาคการศึกษาปี 2567-2568
ทั้งนี้ โซเดียมเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจ ขณะที่น้ำตาลทำให้เป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ หรือ ซีดีซี ระบุว่า เยาวชนอเมริกันอายุ 2-19 ปี เป็นโรคอ้วนจำนวน 14.7 ล้านคน หรือเกือบ 20% ของจำนวนเด็กกลุ่มนี้ทั่วประเทศ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘อนามัยโลก’ ชี้ ‘เอเชีย-แอฟริกา’ กำจัดไขมันทรานส์จากอาหารช้ากว่าเป้า
- กระแสรักสุขภาพ หนุน แพลนท์ เบส ‘อาหารจากพืช’ เทรนด์มาแรงปี 2566
- ส่องอาหารชาวจีน พบ ‘กินไม่สมดุล’ เป็นภัยสุขภาพใหญ่