ตั้งแต่เกิดรัฐประหารเมียนมาเมื่อ 2 ปีก่อน สหรัฐได้เพิ่มแรงกดดันต่อกองทัพ ภายใต้การนำของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ส่วนหนึ่งคือการใช้มาตรการลงโทษ ที่พุ่งเป้าไปที่ด้านการเงิน ขณะที่รัฐบาลทหาร ส่อเค้าขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และเลื่อนการเลือกตั้งออกไป
ตลอดระยะเวลา 2 ปี ของการทำรัฐประหาร นับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 จนถึงเมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ระบุตัวบุคคล 74 ราย และองค์กรหรือหน่วยงานอีก 29 แห่ง ในการใช้มาตรการลงโทษ จากการที่พวกเขาสนับสนุนผู้นำเมียนมา ตลอดจนนักค้าอาวุธ และนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับระบอบการปกครองของเมียนมาในปัจุบัน
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่จริง ทหารเมียนมายังคงดำเนินการปราบปรามผู้ก่อต้านรัฐ และยังพยายามระดมทุน แม้ว่าจะถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติก็ตาม
อิริน เมอร์ฟีย์ นักวิเคราะห์จาก ศูนย์เพื่อการศึกษากลยุทธ์ และนานาชาติ กล่าวว่า หากไม่มีมาตรกาลงโทษจากนานาประเทศ สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายกว่านี้ พร้อมพูดถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดการค้าอาวุธระหว่างเมียนมา เกาหลีเหนือ รัสเซีย และเบลารุส ทั้งอาจมีการค้ายาเสพติดเพิ่มขึ้นด้วย
เธอบอกว่าเมียนมาเสี่ยงต่อการเกิดความรุนแรงอยู่แล้ว และขณะนี้ ประเทศกำลังอยู่ “บนขอบของความล่มสลาย”
ที่ผ่านมา ผู้นำกองทัพเมียนมา สัญญาว่าจะจัดการเลือกตั้งที่เสรี และยุติธรรม แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเมื่อใด ทั้งยังส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ ที่จะขยายเวลาบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน และเลื่อนการเลือกตั้งออกไป หลังเมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) รัฐบาลทหาร แถลงว่า สถานการณ์ในประเทศยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ
รัฐบาลทหารเมียนมา อ้างว่า กลุ่มฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ทั้งกองกำลังป้องกันประชาชน และรัฐบาลเงา พยายามยึดอำนาจด้วยการก่อความไม่สงบ และใช้ความรุนแรง และกล่าวว่า จะมีการเผยแพร่ประกาศสำคัญในวันนี้ (1 ก.พ.) แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติม
ทางด้าน สหรัฐก็ได้ประกาศมาตรการลงโทษเมียนมาเพิ่มเติมเมื่อวานนี้ เพียง 1 วันก่อนครบวาระ 2 ปี ของการก่อรัฐประหารในเมียนมา
กระทรวงการคลังสหรัฐ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรนายมโย มยินโอ รัฐมนตรีพลังงานเมียนมา และผู้บริหารระดับสูงอีก 2 คนของ เมียนมา ออย แอนด์ แก๊ส เอนเตอร์ไพรซ์ ที่เป็นบริษัทของรัฐบาลเมียนมา
นอกจากนั้น ยังคว่ำบาตร พล.อ.อ.ทุน อ่อง ผู้บัญชาการทหารอากาศ และอดีตทหารในกองทัพที่กระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุว่า เป็นผู้จัดการอาวุธให้แก่กองกำลังที่สนับสนุนรัฐบาลเมียนมา และถู ทเว เทซา บุตรสาวของนายเทซา ประธานกลุ่มบริษัทในเครือถู ซึ่งทำงานและมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกองทัพเมียนมา ทั้งยังคว่ำบาตรคณะกรรมาธิการการเลือกตั้ง และบริษัททำเหมืองของรัฐบาลอีก 2 แห่ง
การคว่ำบาตรครั้งใหม่ของสหรัฐ ประกาศออกมาพร้อม ๆ กับที่ แคนาดา และอังกฤษ ประกาศมาตรการลงโทษเช่นเดียวกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- รัฐบาลทหารเมียนมา ประกาศ ‘กฎหมายเลือกตั้งใหม่’ เข้มกว่าเดิม
- ‘ยูเอ็น’ พบ ‘รัฐประหาร’ ทำ ‘เมียนมา’ ปลูกฝิ่นปี 64-65 เพิ่มเกือบ 90% มูลค่าทะลุ 6 หมื่นล้านบาท
- ‘เวิลด์แบงก์’ เป็นห่วง ‘รัฐประหาร’ ทำเมียนมา พัฒนาถดถอย
