ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (WTI) ปิดซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ดิ่งแรงแตะระดับ 76 ดอลลาร์ เหตุนักลงทุนกังวล “เฟด” เดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก หลังข้อมูลเศรษฐกิจแกร่ง
ราคาน้ำมันดิบ WTI กำหนดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 3.05 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 76.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) กำหนดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ราคาลดลง 2.89 ดอลลาร์ หรือ 3.4% ปิดที่ 82.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในช่วงแรกนั้น ตลาดได้แรงหนุนจากการที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน และชาติพันธมิตร หรือ โอเปคพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (4 ธ.ค.) ซึ่งเป็นการคงนโยบายการผลิต หลังจากที่มีมติปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวันในการประชุมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม
แต่ราคากลับร่วงลงในเวลาต่อมา เพราะกังวลว่า “ธนาคารกลางสหรัฐ” (เฟด) อาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ทั้งในดัชนีภาคบริการ และตัวเลขการจ้างงานที่ขยายตัวสูงกว่าคาดในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยอาจทำให้เศรษฐกิจตกอยู่ในภาวะซบเซา และส่งผลกระทบคต่อความต้องการบริโภคน้ำมันได้
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ซาอุดีอาระเบีย’ ลดราคา น้ำมันให้ ‘ลูกค้าเอเชีย’ หลังเศรษฐกิจส่งสัญญาณชะลอตัว
- ‘โกลด์แมน แซคส์’ คาด น้ำมันดิบ ราคาดีดถึง 115 ดอลลาร์ ต้นปี 66 เหตุ ‘โอเปคพลัส’ ลดผลิตครั้งใหญ่
- ไม่สนแรงกดดัน! ‘โอเปคพลัส’ หั่นกำลังผลิตน้ำมันวันละ 2 ล้านบาร์เรล หวังดันราคา