อนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกโลกทางวัฒนธรรม และทางธรรมชาติ หรือ “อนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก” หรือ อนุสัญญา 1972 มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติ ในการดำเนินงานเพื่อปกป้อง คุ้มครอง และป้องกันแหล่งมรดกทางวัฒนธรรม และมรดกทางธรรมชาติ เพื่อส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคต
อนุสัญญานี้ โดยเป็นหนึ่งในอนุสัญญา ที่มีรัฐภาคีเข้าร่วมมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งไทยเข้าร่วมเป็นภาคี เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2530 โดยข้อมูลล่าสุด ในปี 2565 แสดงให้เห็นว่า ไทยมีแหล่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จำนวน 6 แห่งได้แก่
มรดกโลก 6 แห่งของไทย
- เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัย และเมืองบริวาร
- นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
- แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง
- เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง
- พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
- พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน
การที่แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม และทางธรรมชาติ ได้รับการยกย่องให้เป็นแหล่งมรดกโลก นอกจากจะเป็นกลไกที่ช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์คุณค่าโดดเด่นในด้านต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นการสร้างความภาคภูมิใจให้กับชุมชน ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ รวมทั้งสร้างความตระหนัก หวงแหน และความรู้สึกเป็นเจ้าของทรัพยากร
นอกจากนั้น ยังช่วยสร้างรายได้ และมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน อันเนื่องจากการท่องเที่ยว และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรง และทางอ้อม รวมทั้งยังได้รับการยกย่องในฐานะที่เป็นแหล่งเรียนรู้ และศึกษาวิจัยในระดับนานาชาติ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ครม. เปิดทางเสนอ 6 อุทยาน 1 ป่าชายเลน ขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลก
- มีเฮ! นับหนึ่ง ‘อันดามันมรดกโลก’
- สำเร็จแล้ว! ‘กลุ่มป่าแก่งกระจาน’ ผงาด ‘มรดกโลก’ แห่งล่าสุด (คลิป)