“เทพไท” เทียบ 5 ข้อ “ตัดไฟ” แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ได้-คุ้มเสียหรือไม่?
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิปพร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “ตัดไฟพม่า:ได้-คุ้มเสียหรือไม่?” ระบุว่า…ตัดไฟพม่า : ได้-คุ้มเสียหรือไม่?
หลังจากรัฐบาลมีมาตรการตัดไฟฟ้าที่ส่งไปยังประเทศเมียนมา ทำให้หลายฝ่ายเฝ้ามองว่าจะประสบความสำเร็จในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้หรือไม่ แม้แต่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงพื้นที่ไปดูสถานการณ์ด้วยตนเอง
ผมในฐานะผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง ได้เฝ้าดูผลที่เกิดขึ้นหลังจากการตัดไฟส่งไปประเทศเมียนมา แล้ว เห็นว่ามีผลอยู่บ้าง แต่ยังไม่เห็น
ผลที่ชัดเจน จึงเห็นว่ามาตรการตัดไฟของรัฐบาลครั้งนี้ แม้จะมีประโยชน์บ้าง แต่เมื่อชั่งน้ำหนักแล้ว น่าจะเกิดผลเสียมากกว่า ซึ่งพอจะแยกผลได้กับผลเสีย คือ สำหรับผลได้ มีอยู่ 5 ข้อ ดังนี้
- ได้ภาพทางการเมือง ว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจังกับการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์
- ได้ภาพความร่วมมือกับรัฐจีน ที่ส่งระดับผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ มาปักหลักบัญชาการอยู่ที่เมืองไทยหลายวัน ไปดูสถานการณ์ชายแดนที่แม่สอดด้วย
- ได้ผลทางจิตวิทยา ทำให้ผู้ถูกคุกคามจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีความสบายใจขึ้น ไม่ต้องหวาดระแวงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก
- ได้มีประเด็นให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำไปคุยกับรัฐบาลจีน ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศจีน
- ได้รับคำชมจากนายสี จิ้นผิง และได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย ที่ตัดไฟเพื่อตัดวงจรแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์
ส่วนผลเสียที่ได้รับ มีอยู่ 5 ข้อ ดังนี้
- เกิดความเสียหายทางธุรกิจ และเศรษฐกิจการค้าชายแดน ระหว่างไทยกับเมียนมา
- ทำให้ประชาชนผู้ไม่มีส่วนได้เสีย หรือเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้รับความเดือดร้อนในการใช้ชีวิตประจำวัน บ้านอยู่อาศัยไม่มีไฟฟ้าใช้
- หน่วยงานราชการของเมียนมา และโรงพยาบาล มีผลกระทบต่อผู้ป่วย ห้องผ่าตัด ห้องICU
- รัฐบาลสูญเสียรายได้ปีละ 600 ล้านบาท ตามข้อมูลของนายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
- รัฐบาลเสี่ยงถูกบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นคู่สัญญา และเป็นบุคคลภายนอก ไม่ได้ทำผิดสัญญา เมื่อถูกตัดกระแสไฟฟ้าย่อมกระทบต่อธุรกิจ ซึ่งอาจจะมีการฟ้องร้องเรียกค่าโง่จากรัฐบาลได้
ถ้าถามว่าการที่รัฐบาลมีมาตรการตัดไฟครั้งนี้ มีผลต่อแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หรือไม่ ก็ต้องยอมรับความจริงว่า มีผลบ้าง แต่ไม่มากนัก
เมื่อชั่งน้ำหนักระหว่างผลได้กับผลเสียแล้ว น่าจะมีผลเสียมากกว่าผลได้ ซึ่งรัฐบาลจะต้องตัดสินใจว่า การแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากการตัดไฟฟ้าจะหมดไปจริงหรือไม่
ตอนนี้หลังจากตัดไฟไปแล้ว 2 วัน ยังมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อาละวาดอยู่ แม้แต่ผมก็ยังมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้ามาอยู่เหมือนเดิม ไม่ได้เปลี่ยนแปลงใดๆเลย
การตัดไฟน่าจะเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด หรือที่เรียกว่าเกาไม่ถูกที่คัน เพราะต้นเหตุที่แท้จริง น่าจะมาจากการใช้อินเตอร์เน็ตสัญญาณโทรศัพท์ ที่โทรมาหลอกเหยื่อ จึงควรจะตัดสัญญาณโทรศัพท์ ก่อนที่จะตัดกระแสไฟฟ้า
ดังนั้นรัฐบาลควรจะใช้มาตรการอื่นเพิ่มเติม ในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ให้ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดมากกว่านี้ การแก้ปัญหาควรโฟกัสไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยตรง เพื่อไม่ให้กระทบกับความเดือดร้อนของประชาชน และสร้างความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจ ฝากไว้ให้คิดครับ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ทักษิณ’ บินนอกประเทศ พบ ‘อันวาร์’
- สภาพอากาศวันพรุ่งนี้ 3 ก.พ. ทั่วประเทศอากาศเริ่มอุ่นขึ้น ยังมีหมอกตอนเช้า ‘ฝุ่นละออง’ ยังเยอะ
- ด่วน! ที่ประชุม สมช. มีมติ ตัดไฟฟ้า-อินเตอร์เน็ต-น้ำมัน ให้ ‘เมียนมา’ 5 จุด
ติดตามเราได้ที่
- เว็บไซต์ : https://www.thebangkokinsight.com/
- Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
- Twitter: https://twitter.com/BangkokInsight
- Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
- Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yx