ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หัวหน้าทีมปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้งได้ข่าวว่าน่าจะมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้งไม่เกินวันที่ 23 ม.ค และจะรับสมัครวันที่ 4-8 ก.พ. และรับรองผลวันที่ 9 พ.ค.ซึ่งวันนี้การเดินสายปราศรัยนโยบายใหม่ยังออกไม่ได้ เพราะต้องรอพ.ร.ฎ.บอกได้เพียงว่า จะลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ขยายโอกาส 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน อย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่เป็นไปอย่างที่พูด ที่บอกว่าจะปฏิรูปการเมือง เป็นรัฐธรรมนูญที่อัปลักษณ์ที่สุด ให้อำนาจวุฒิสภามาเลือกนายกรัฐมนตรี แถมมีอำนาจ 8 ปี แบบนี้เขียนมาได้อย่างไร นายกฯต้องมาจากการเลือกตั้ง วุฒิไม่มีสิทธิเลือกนายกฯ คนที่จะเลือกนายกฯได้ต้องมาจากประชาชน มาจากการเลือกตั้ง
ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวด้วยว่าได้ดูพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ไปที่ต่างๆ บอกเลือกพรรคพลังประชารัฐจะได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกฯ เรื่องนี้นายกฯเขาปฏิเสธว่าท่านไม่เกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐต้องหยุดพูดถึง พล.อ.ประยุทธ์
“4 รัฐมนตรี ท่านลองลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี แล้วไปหาเสียงแบบที่ไม่กล้าพูด ไม่กล้าบอกอะไร แล้วท่านจะรู้ว่ามันไม่ง่าย วันนี้ตนยังมั่นใจว่า พรรคเพื่อไทย, พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคอนาคตใหม่ ไต่ระดับ 300 เสียง ใครที่คาดหวังไว้ต้องร้องไห้ แล้วอย่ามาโกรธว่าตนพยากรณ์ไว้ พรรคนกหวีดเปิดตัวครั้งแรกบอกจะเอา 70 เสียง แต่เมื่อเช้าไปแพร่ ไปน่าน บอกจะไม่เสนอคนในพรรคเป็นนายกฯ เพราะรู้ตัวไงว่าจะได้ไม่ถึง 25 เสียง ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐบอกว่าจะได้ 150 เสียง ตนจะให้นักข่าวมายืนด่าหน้าบ้าน 3 ชั่วโมงเลย จะไปเอามาจากไหน”
เมื่อถามว่า กระแสพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไรบ้าง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จากที่ได้ลงพื้นที่ 6 จังหวัด ขึ้นปราศรัย 13 เวที คะแนนพรรคเพื่อไทยนำทุกพรรค ส่วนในกทม.นั้น พรรคพลังประชารัฐไม่ต้องมาท้ารบ เพราะพรรคเพื่อไทยแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียวแค่นั้น พรรคพลังประชารัฐปิดจ๊อบไปเถอะ ไม่มีทางได้ถึง 150 ที่นั่ง
แต่ทั้งนี้ ต้องระวังเรื่องการโกงเลือกตั้งด้วย ในฐานะที่ตนเป็นผู้มีอำนาจการปราบโกงเลือกตั้งบอกเลยว่า ต้องระวังเพื่อไม่ให้ประวัติศาสต์ซ้ำรอยแบบครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ หาก พ.ร.ฎ.ประกาศแล้ว ตนมีทริปไปเดินสายปราศรัย 10 วัน
