พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ รัฐบาลจะเริ่มส่งน้ำเข้าพื้นที่ 12 ทุ่งลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างครอบคลุม 10 จังหวัดท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ได้แก่จ.นครสวรรค์ ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี รวมพื้นที่ 1.15 ล้านไร่ เพื่อให้เกษตรกรเตรียมการเพาะปลูกข้าวเร็ว ซึ่งเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาผลผลิตทางการเกษตรที่เสียหายจากภาวะน้ำท่วม โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร จึงสั่งการให้แก้ไขอย่างเร่งด่วน ด้วยการออกมาตรการเลื่อนเวลาการปลูกข้าว จากเดือนมิถุนายนเป็นเดือนพฤษภาคม ซึ่งช่วยลดความเสียหายได้มาก พร้อมทั้งกำชับให้ขยายผลไปยังพื้นที่ลุ่มน้ำอื่น ทั้งในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย
นายกรัฐมนตรีเน้นอยากให้เกษตรกรมีความสามัคคี และร่วมมือกันเพาะปลูกหรือทำการเกษตรอย่างพร้อมเพรียงกัน เมื่อถึงเวลาเปิดปิดน้ำ ซึ่งนอกจากจะเป็นผลดีต่อเกษตรกรโดยตรงแล้ว ยังช่วยลดผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางอีกด้วย การเลื่อนปฎิทินการเพาะปลูกและใช้พื้นที่ 12 ทุ่งเป็นแก้มลิงธรรมชาติชั่วคราว สำหรับพักชะลอรองรับน้ำหลากหลังเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จช่วงเดือนกันยายน ในปีที่ผ่านมาเกษตรกรในพื้นที่ได้รับประโยชน์และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งที่มีปริมาณฝนตกสะสมใกล้เคียงกับปี 2554 แต่ไม่เกิดความเสียหายเท่ากับปี 2554 สำหรับปีนี้คาดว่าจะสามารถรองรับน้ำไว้ได้มากถึง 1,500 ล้านลูกบาศก์เมตร เท่ากับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 2 เขื่อน ช่วยลดผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนตามแนวริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเขตเศรษฐกิจตอนล่าง กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยดำเนินการควบคู่กับการปรับปรุงเสริมคันกั้นน้ำให้มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ได้รับผลกระทบ และไม่เป็นอุปสรรคต่อการสัญจร พล.ท.สรรเสริญกล่าว
