‘ศิริ’ ยันรัฐได้ประโยชน์กว่า 6.5 แสนล้านบาทจากการที่ปตท.สผ.ชนะประมูลทั้งแหล่งบงกชและเอราวัณ พร้อมสั่งการให้ปตท.สผ.เอื้ออาทร เปิดกว้าง รับพนักงานเชฟรอน ที่ทำงานในแท่นผลิตเอราวัณกว่า 300 คนทำงานต่อ มั่นใจเชฟรอนเป็นมืออาชีพ บริหารแหล่งสัมปทานในไทยต่อที่มีกว่า 20 แหล่ง
หลังจากที่คณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดหนองคาย เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม มีมติเห็นชอบให้ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท เอ็มพี จี2 (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/61 (แปลงเอราวัณ)ต่อจากบริษัทเชฟรอน ประเทศไทยสำรวจ และผลิต จำกัด และ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เป็นผู้ที่ได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G2/61 (แปลงบงกช)
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวอีกครั้งในระหว่างการเดินทางทำภารกิจมอบหลอดประหยัดไฟ LED ที่โรงพยาบาลมิตรภาพนครหลวงเวียงจันทร์ ลาว ว่า การประมูลปิโตรเลียมแหล่งเอราวัณและบงกชครั้งนี้ ก่อให้เกิดประโยชน์จากการแข่งขันอย่างเต็มที่ โดยทั้ง 2 ข้อเสนอต่างน่าสนใจ และเป็นประโยชน์ แต่การแข่งขันก็ต้องพิจารณาข้อเสนอที่ดีที่สุด ซึ่งข้อเสนอของปตท.สผ.เป็นข้อเสนอที่ดีมากๆ
“ยินดีกับปตท.สผ.และเชฟรอน ที่แข่งขันกันอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดประโยชน์กับคนไทยและประเทศไทย”
ในส่วนของราคาก๊าซธรรมชาตินั้น ลดลงไปได้ถึง 5.5 แสนล้านบาทใน 10 ปี จากการผลิตขั้นต่ำ 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวันสำหรับแหล่งเอราวัณ และ 700 ล้านลบ.ฟุตต่อวันสำหรับแหล่งบงกช
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้รับส่วนแบ่งด้านภาษีปิโตรเลียมและค่าภาคหลวงเพิ่มขึ้นอีก 1 แสนล้านบาท รวมแล้วประโยชน์ตกกับประเทศโดยรวม 6.5 แสนล้านบาทใน 10 ปี และทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงไม่ต่ำกว่า 17 สตางค์ต่อหน่วย ส่วนก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ภาคประชาชนเบื้องต้นลดได้ ประมาณ 50 สตางค์
ส่วนข้อกังวลของพนักงานเชฟรอนที่ทำงานในแหล่งเอราวัณ ประมาณ 300 คนนั้น นายศิริ ย้ำว่า แหล่งผลิตปิโตรเลียมเป็นกิจการใหญ่ เชื่อว่าปตท.สผ.จะเปิดรับพนักงานทุกคนที่ทำงานที่นั้นอยู่แล้ว เพื่อช่วยในการบริหารจัดการแท่นผลิตต่อจากเชฟรอน ส่วนตัวจะมอบหมาย รวมถึงสั่งการให้ปตท.สผ.เอื้ออาทร เปิดรับ เปิดว้าง พนักงานที่ทำงานในแหล่งอาเราววัน ที่ทำงานอยู่แล้วที่แหล่งเอราวัณ ให้ทำอย่างต่อเนื่องต่อไป
สำหรับกรณีที่มีผู้ประเมินว่า หลังจากที่เชฟรอนไม่ชนะการประมูลครั้งนี้ จะไม่มีการผลิตปิโตรเลียมที่แหล่งเอราวัณอย่างต่อเนื่องในระหว่างเวลาที่เหลืออยู่จนถึงปี 2566 ทำให้ประเทศเสียประโยชน์ นายศิริ ระบุว่าเชื่อในความเป็นมืออาชีพของเชฟรอน ว่าเป็นผู้ประกอบการที่สำคัญในไทยมานาน จึงมั่นใจว่าจะไม่ทำอย่างน้้น และเชฟรอนเองก็มีแหล่งสัมปทานที่ต้องบริหารจัดการในไทยอีกกว่า 20 แหล่ง
ทางด้านเงื่อนไขการประมูลที่ให้รัฐวิสาหกิจเข้าไปถือหุ้น 25 % ในแต่ละแหล่งนั้น เนื่องจากปตท.สผ.มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจอยู่แล้ว เงื่อนไขนี้จึงไม่จำเป็นต้องมี