การประกาศของกัลฟ์ ในการทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของอินทัช อาจเหนือความคาดหมายไปบ้าง หลังจากที่กัลฟ์ได้ทยอยซื้อหุ้นตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา จากระดับ 5% จนถึงปัจจุบันเกือบ 20%
เพราะกัลฟ์ชี้แจงมาโดยตลอดว่าการเข้าไปซื้อหุ้นในอินทัชเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นการบริหารเงินลงทุน และต้องการผลตอบแทนในรูปเงินปันผล เนื่องจากอินทัชเป็นหุ้นพื้นฐานที่ให้ผลตอบแทนเป็นเงินสดมาโดยตลอด
อ่านเพิ่มเติม: การลงทุนในหุ้นสามัญในบริษัทอินทัชโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
กัลฟ์ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ในช่วงเช้าวันนี้ว่าบริษัทจะทำคำเสนอหุ้นของบริษัทอินทรัช โฮลดิ้งส์ จำกัด หรือ INTUCH และ ของบริษัทแอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ตามมติของคณะกรรมการบริษัท
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: แจ้งมติที่ประชุมกรรมการเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ INTUCH และ ADVANC และการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564
นายสมิทธ์ พนมยงค์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารสินทรัพย์ธุรกิจในเครือและการลงทุน บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF กล่าวว่าการเข้าลงทุนในอินทัชครั้งนี้ เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และอินทัชก็เป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ซึ่งกัลฟ์ได้เตรียมเพื่อปรับเปลี่ยนเข้าสู่ดิทัล
” ปัจจุบันเราเติบโตจากไฟฟ้า เราขยายไปสู่ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน ดิจิทัลก็เป็นโครงสร้างพื้นฐานของอนาคต บริษัทเตรียมความพร้อมและปรับเปลี่ยนตัวเองเข้าสู่อนาคต คือ เป็นดิจิทัลอินฟราสตัคเจอร์ การเข้าลงทุนในอินทัช เน้นที่อินทัช เป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้เราขยายและเติบโตเข้าไปในอนาคตได้ เพราะอินทัช เป็นบริษัทที่ดี มีผู้ถือหุ้นที่ดี มีผู้บริหารที่ดี และมีการลงทุนที่ดี มีครบถ้วย ทั้งธุรกิจการสื่อสาร ธุรกิจดิจิทัลแพลทฟอร์ม อีคอมเมิร์ซ อินฟาราสตัคเจอร์ต่าง ๆ จากการประชุมผู้ถือหุ้นของอินทัช เขาเน้นย้ำว่าบริษัทพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองมาสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์ม การลงทึนที่หลากหลาย เราเชื่อว่าจะสามารถต่อยอด การลงทุนจากที่เรามีอยู่เดิม”
การเสนอซื้อหุ้นของกัลฟ์ครั้งนี้ ทำเทนเดอร์อินทัชเป็นหลัก แต่ตามกฎของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้กำหนดว่าหากสามารถซื้อหุ้นและถือหุ้นเกิน 50% ก็ต้องทำเทนเดอร์หุ้นแอดวานซ์ด้วย
“เราไม่ได้ไปซื้อหุ้นแอดวานซ์ แต่ตามกฎ มีสูตรการคำนวณของกลต. ทำให้ต้องทำเทนเดอร์แอดวานซ์ หากเราถือหุ้นอินทัชเกิน 50%”
นายสมิทธ์ กล่าวว่าแผนธุรกิจของกัลฟ์ ขึ้นกับการตอบรับการเสนอซื้ออย่างไร ปัจจุบันกัลฟ์เป็นบริษัทโครงสร้างพื้นฐาน กัลฟ์มองโครงสร้างพื้นฐาน ทางผู้บริหารประเมินแล้ว หากผันตัวไปสู่ดิจิทัล เราก็เตรียมความพร้อม แต่ขึ้นกับการตอบรับการทำเสนอซื้อครั้งนี้ด้วย ซึ่งล่าสุดทาง SINGTEL GLOBAL INVESTMENT PTE. LTD. ผู้ถือหุ้นใหญ่ของอินทัชแถลงออกมาแล้วว่าการลงทุนในอินทัช เป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งทาง SINGTEL คงไม่จำหน่ายหุ้นที่ถืออยู่
สำหรับเงินทุนเพื่อใช้ในการเทนดอร์ในครั้งนี้ เตรียมไว้ประมาณ 1.6 แสนล้านบาท โดยคิดตามราคาตลาดปัจจุบันของหุ้นอินทัชที่ 2 แสนล้านบาท ขณะนี้กัลฟ์ถืออยู่ประมาณ 20% หรือราว 4 หมื่นล้านบาท จึงเหลือส่วนผู้ถือหุ้นอื่นอีก 1.6 แสนล้านบาท ถ้าตัดส่วนของ SINGTEL ออก จะเหลือจริง ๆ ประมาณแสนล้านบาท
สำหรับแหล่งเงินทุน ทางกัลฟ์เตรียมกู้เงินไว้จากหลายธนาคาร และยังมีงบลงทุนเหลืออยู่อีกหลายหมื่นล้าน และในเช้านี้มีหลายธนาคาร ทั้งในประเทศและต่างประเทศเสนอมาให้กู้เพิ่ม
“มีเพียงพอแน่นอน ซึ่งตามกฎของกลต.ต้องรายงานว่าเรามีเงินแน่นอน”
นายสมิทธ์ กล่าวว่าการประกาศเทนเดอร์ครั้งนี้ เนื่องจากตามกฏของตลาดหลักทรัพย์ละก.ล.ต.ต้องมีการรายงานหลายครั้ง ตามจำนวนหุ้นที่เพิ่มขึ้นมาและต้องจัดประชุมผู้ถือหุ้น ดังนั้นเพื่อตัดปัญหาการต้องรายงานหลายครั้ง ทางผู้บริหารจึงตัดสินใจประกาศซื้อทั่วไป
“เราซื้อมาระยะหนึ่งแล้ว…มีกฎหลายข้อจะต้องทำให้ถูกต้อง ไหน ๆ ถึงจุดนี้ ก็ประกาศซื้อทั่วไปเลย เพื่อตัดปัญหาส่วนนี้”
สำหรับราคาเสนอซื้ออินทัชสูงกว่าในกระดาน ส่วนราคาแอดวานซ์ต่ำกว่าราคาในกระดานมาก ดังนั้นคงไม่มีผู้ถือหุ้นรายใดขายออก เพราะเป้าหมายของกัลฟ์คือลงทุนในอินทัช ที่มีความหลากหลายในแพลทฟอร์มดิจิทัล เราไม่ได้ต้องการเป็นโอเปอร์เรเตอร์ รวมทั้งกรณีของไทยคม (THCOM)
“เรามองว่าอินทัช มีดิจิทัลแพลทฟอล์มที่หลากหลาย เราเตรียมความพร้อมไปทางนี้ด้วย เราไม่ได้มองเข้าไปเป็นโอเปอร์เรเตอร์ เราจึงไม่ทำตรงนั้น เราไม่เตรียมเงินเพื่อซื้อ ADVANC และ THCOM ซึ่งได้ทำเสนอขอผ่อนผันจากก.ล.ต.ว่าไม่ต้องเตรียมเงินส่วนนี้”
นายสมิทธ์ กล่าวอีกว่ากัลฟ์มีการวางแผนการเงินอย่างอนุรักษ์ หากการทำเทนเดอร์ครั้งนี้ได้น้อย ก็ใช้เงินลงทุนน้อย หากได้มาก เราก็มีกระแสเงินสด เพียงพอนการองรับ
“เรามีความมั่นใจว่ามีเงินทุนเพียงพอ แต่ขึ้นกับการตอบคำเสนอซื้อ ไม่ว่าจะได้น้อย หรือมาก เราก็พร้อม”
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการทำเทนเดอร์ครั้งนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่ เพราะ SINGTEL ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ประกาศว่าจะยังคงลงทุนในอินทัชตามกลยุทธ์การลงทุน
แต่หากพิจารณาสัดส่วนผู้ถือหุ้นในขณะนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่กัลฟ์จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่สุดของอินทัช และน่าจับการขับเคลื่อนของกัลฟ์ต่อจากนี้ไป เมื่อเข้าไปมีบทบาทบริหารอินทัชอย่างเต็มตัว
อ่านข่าวเพิ่มเติม:
- GULF ประกาศตั้งโต๊ะซื้อหุ้นทั้งหมด ‘INTUCH-ADVANC’
- ‘GULF’ เปิดกำไรไตรมาส 4 ปี 63 พุ่ง 85%
- GULF ซื้อหุ้น INTUCH ครบ 15% ตามเป้า
