กรมทะเล ส่งทีมสัตวแพทย์ ผ่าชันสูตร “เต่าตนุ” หลังพบซากเกยหาดในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่กำลังมีปัญหาก้อนน้ำมันลึกลับถูกพัดเข้าฝั่งอย่างต่อเนื่อง
จากกรณีพบซาก “เต่าตนุ” สัตว์ทะเลลอยตายมาเกยหาด พร้อมกับ “ก้อนน้ำมัน” จำนวนมาก บริเวณหาดบ้านแพรกเมือง บ้านฉิมหลา หมู่ 3 อำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช และนายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่ง (ทช.) ได้มอบหมายให้สถาบันวิจัย และพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ และทีมสัตวแพทย์ลงพื้นที่ตรวจสอบการตายของเต่าทะเลตัวดังกล่าวแล้วนั้น
ล่าสุด ในวันนี้ (11 มี.ค.) สัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ได้ร่วมกันทำการผ่าชันสูตรซากเต่าทะเล พบว่าเป็นเต่าตนุ เพศเมีย อายุประมาณ 4 – 5 ปี น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม
หลังจากที่ผ่าเปิดช่องท้อง และชันสูตรลึกไปจนถึงระบบทางเดินอาหารของเต่า พบว่าภายในกระเพาะอาหาร และลำไส้เต็มไปด้วยขยะพลาสติกจำพวกเชือก จากเครื่องมือประมง ถุงพลาสติกขนาดเล็ก และพบของเหลวสีดำ คล้ายกับก้อนน้ำมัน ที่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดแล้ว ละลายกลายเป็นของเหลว ทั้งหมดถูกเก็บเป็นตัวอย่างนำไปวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ พร้อมทั้งชิ้นส่วน และเนื้อเยื่อของเต่าตนุ หลังจากนั้นได้ฝังกลบซากเต่าตนุตัวดังกล่าวไว้ในบริเวณหาดทราย
นายโสภณ กล่าวว่า จากการรายงานเบื้องต้นภายหลังผ่าชันสูตรเต่าตนุ จากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง ทราบว่า ไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายที่แน่ชัดได้ เพราะสภาพซากเริ่มเน่ามาก
แต่จากการตรวจพบในระบบทางเดินอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้ แสดงให้เห็นได้ชัดว่า เต่ายังสามารถหาอาหารได้ตามปกติ แต่ในลำไส้มีขยะอยู่ค่อนข้างมาก ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเต่าตนุอย่างแน่นอน
ส่วนก้อนน้ำมันจำนวนมากที่เกยหาดทรายนั้น ขณะนี้ได้ละลายกลายเป็นของเหลวข้นสีดำและซึมไปในหาดทราย โดยเจ้าหน้าที่ยังหวั่นอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น กับสัตว์ทะเลหายากในบริเวณนี้ จากสารประกอบโลหะหนักที่อยู่ในก้อนน้ำมัน ซึ่งอาจไปสะสมอยู่ในร่างกายของสัตว์ทะเลหายากเหล่านี้ และจะก่อให้เกิดอาการป่วย หากรับไปในปริมาณมากจะทำให้ตายได้ในทันที
นอกจากนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ยังได้เน้นย้ำถึงสิ่งที่ตั้งใจ และพยายามหาแนวทางในการดำเนินงาน ที่จะรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล เพื่อส่งต่อให้ถึงมือเยาวชนรุ่นต่อไปได้อย่างสมบูรณ์และยั่งยืนที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรที่นับวันจะมีแนวโน้มลดจำนวนลงอย่างสัตว์ทะเลหายาก
ด้วยเหตุนี้ จึงมอบหมายให้ทช. เพิ่มมาตรการในการคุ้มครอง และดูแลเต่าทะเลให้เข้มข้น เพื่อลดปัญหาการเกยตื้น ตลอดจนเร่งแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกตกค้างในทะเลที่เป็นสาเหตุสำคัญของการสูญเสียสัตว์ทะเลหายากหลายชนิด ผ่านการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน ประมงชายฝั่ง และภาคธุรกิจการท่องเที่ยว
นายโสภณ กล่าวด้วยว่า เต่าทะเล ก็เหมือนคนเรา หากเห็นที่ไหนปลอดภัย สวยงาม น่าอยู่ ก็อยากจะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น การปล่อยให้เต่าทะเลได้อยู่ตามธรรมชาติ ถือเป็นวิถีที่ดีที่สุด ทุกคนต้องหันมาช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น ลดการใช้ และทิ้งขยะพลาสติก เครื่องมือทำการประมง ลงไปในระบบนิเวศทางทะเล
นอกจากนี้ หากพบเจอเต่าทะเลเกยตื้นที่ยังมีชีวิตอยู่ ขอให้ทุกคนแจ้งเบาะแสมายังกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ให้เข้าทำการช่วยเหลือได้ทันท่วงที
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เต่ามะเฟือง’ ขึ้นวางไข่รอบ 8 ปี ฝากคนภูเก็ตดูแลอย่าให้ใครขโมย
- เรือเฟอร์รี่ล่ม เกาะสมุย : ดร.ธรณ์ เตือน เพิ่มขยะทะเล กระทบเต่า สัตว์หายาก
- ‘อ.ธรณ์’ เดือดหนัก! ไข่เต่ามะเฟืองถูกขโมยยกรัง วอนเร่งจับคนผิดมาลงโทษ