The Bangkok Insight

แนะ 7 กลุ่มเสี่ยงรับ ‘วัคซีนไข้หวัดใหญ่’ ช่วยลดความสับสน ‘โควิด-19’

“กรมควบคุมโรค” เผยการฉีดวัคซีน “ไข้หวัดใหญ่” ช่วยลดภาระการจัดการ “โควิด-19” ได้มาก ป้องกันความสับสนระหว่าง 2 โรค ด้าน “สปสช.” เตรียมวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 6.4 ล้านโดส ให้บริการประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิฟรี เปิดจองคิว-นัดฉีด ตั้งแต่วันนี้-30 เมษายนนี้ เริ่มฉีดจริงตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม

พญ.สุชาดา เจียมศิริ ผู้อำนวยการกองโรคป้องกันด้วยวัคซีน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ มีส่วนช่วยประเทศให้สามารถจัดการโรคโควิด-19 ได้ด้วย เพราะหากสามารถลดภาระจากโรคไข้หวัดใหญ่ได้ นอกจากจะช่วยลดความสับสนระหว่างโรคไข้หวัดใหญ่กับโควิด-19 ได้แล้ว ยังจะลดอุปสรรคในการป้องกัน และควบคุมโควิด-19 รวมถึง ค่าใช้จ่ายในระบบสาธารณสุขที่ลดลงไปด้วย

shutterstock 1767084407

เนื่องจากอาการป่วยของโรคไข้หวัดใหญ่กับโควิด-19 นั้นมีลักษณะคล้ายกันมาก และไม่สามารถแยกได้ด้วยอาการ ฉะนั้นในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาด ซึ่งเมื่อเจอเคสแล้วจะต้องมีการตรวจความเสี่ยง ตามไทม์ไลน์ สอบสวนโรคต่าง ๆ หากเรามีการฉีดวัคซีน ที่ช่วยลดอัตราการป่วยไข้หวัดใหญ่ ก็จะช่วยลดความสับสนกับโควิด-19 ลงไปได้

สำหรับข้อดีอีกประการ คือ กลุ่มเป้าหมายของการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ กับวัคซีนโควิด-19 นั้นใกล้เคียงกัน และมีหลายกลุ่ม ที่ซ้อนทับกันอยู่ ฉะนั้นการเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่โรงพยาบาล ผู้รับวัคซีนก็จะมีโอกาสได้พบกับเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบถึงสิทธิในการได้รับวัคซีนโควิด-19 ที่จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงให้ได้มากขึ้นด้วย

“แม้วัคซีนทั้ง 2 ชนิด จะฉีดพร้อมกันไม่ได้ โดยต้องเว้นห่างอย่างน้อยประมาณ 1 เดือน แต่การเข้ารับวัคซีนตัวหนึ่ง ก็จะได้ทำนัดในการรับอีกตัวหนึ่งไปเลย เพื่อให้แพทย์สามารถจัดตารางการให้วัคซีนได้ ในกรณีของกลุ่มเป้าหมายที่มีสิทธิได้รับวัคซีนทั้ง 2 ตัว”

พญ.สุชาดา กล่าวด้วยว่า เนื่องด้วยไทม์ไลน์ของการให้วัคซีนทั้ง 2 ชนิดนั้นยังใกล้เคียงกัน โดยวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ที่กรมควบคุมโรคดำเนินการร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำหรับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง จำนวน 6.4 ล้านโดส นั้น มีแผนให้ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม เป็นต้นไป ส่วนวัคซีนโควิด-19 ก็จะเริ่มมีเข้ามาฉีดสำหรับประชาชนในช่วงเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน ดังนั้นการเข้ารับวัคซีน ก็จะเหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว คือเมื่อผู้ป่วยไปโรงพยาบาล ก็จะสามารถเช็คสิทธิได้เลยว่าได้รับอะไรบ้าง

“หลักการของวัคซีนทั้ง 2 ชนิด ก็มีลักษณะเดียวกัน คือไม่ได้หมายความว่าเมื่อฉีดแล้ว จะมีภูมิขึ้น สามารถป้องกันโรคได้ 100% ทุกคน แต่จุดมุ่งหมายของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ กับวัคซีนโควิด-19 คือช่วยลดอาการป่วยรุนแรง และลดโอกาสที่จะเสียชีวิตจากโรคเหมือนกัน”

ในส่วนสถานการณ์ของโรคไข้หวัดใหญ่ปัจจุบันพบว่ามีการลดลงเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยช่วงที่ควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งต้องมีมาตรการใส่หน้ากาก รักษาความสะอาดต่าง ๆ ได้ช่วยลดจำนวนผู้ป่วยในโรคที่เกิดจากการสัมผัสไอจามลงได้

อย่างไรก็ตามการรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ก็ยังคงมีความจำเป็นสำหรับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย และระบบการจัดการในภาพรวม

สำหรับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงที่มีสิทธิรับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรี ได้แก่

  1. หญิงมีครรภ์
  2. เด็กอายุ 6 เดือนถึง 2 ปี
  3. ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค (โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน)
  4. ผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
  5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
  6. โรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  7. โรคอ้วน มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป หรือดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร

ทั้งนี้ หญิงมีครรภ์แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เมื่อมีอายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป

จองคิวฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ปี 2564

เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน สปสช.ได้เปิดช่องทางให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง สามารถจองสิทธิ และนัดหมายเข้ารับการฉีดวัคซีนล่วงหน้าได้ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 และเข้ารับการฉีดระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม – 31 สิงหาคม 2564

ส่วนหญิงตั้งครรภ์สามารถขอลงทะเบียนและฉีดวัคซีนได้ตลอดทั้งปี โดยมี 4 ช่องทางในการจองสิทธินัดฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ล่วงหน้าดังนี้

  • สายด่วน สปสช. โทร. 1330 กด 1 หลังจากนั้นกด 8 ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.
  • หน่วยบริการประจำหรือโรงพยาบาลในระบบบัตรทอง
  • Line @UCBKK สร้างสุข (เฉพาะผู้มีสิทธิบัตรทองหรือพักอาศัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร) ให้บริการวันจันทร์ถึงวันศุกร์ เวลา 8.30-18.00 น. และวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์ เวลา 9.00-16.00 น.)
  • แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เมนู Health Wallet หรือกระเป๋าสุขภาพ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo