รอเลย! “ประกันราคายางพารา งวด 3” เคาะจ่ายวันที่ 29 ม.ค. นี้ เกษตรรับชดเชย 1.5 ล้านคน รวมเป็นเงิน 2.3 พันล้าน “น้ำยางสด” รับสูงสุด 4,100 บาท
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง (ประกันราคายางพารา) ระยะที่ 2 เริ่มจ่ายเงินให้เกษตรกรชาวสวนยางงวดแรกตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยมีเกษตรกรได้รับเงินแล้วจำนวน 1,156,813 ราย คิดเป็นจำนวนเงินรวม 3,985.13 ล้านบาท
เฮ! “ประกันราคายางพารา งวด 3” กำหนดจ่าย 29 ม.ค.
สำหรับโครงการ ประกันรายได้ เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 งวดที่ 3 ประจำเดือนธันวาคม 2563 มีกำหนดจะจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกรชาวสวนยางในวันที่ 29 มกราคม 2564 จำนวน 1,561,354 ราย รายละไม่เกิน 25 ไร่ คิดเป็นวงเงิน 2,362.69 ล้านบาท ตามราคากลางอ้างอิงดังต่อไปนี้
- ยางแผ่นดิบ ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 57.85 บาทต่อกิโลกรัม จ่ายชดเชย 2.15 บาทต่อกิโลกรัม ยอดเงินสูงสุดที่เกษตรกรได้รับ 1,075 บาท
- น้ำยางสด (DRC 100%) ราคาอยู่ที่ 48.78 บาทต่อกิโลกรัม จ่ายชดเชย 8.22 บาทต่อกิโลกรัม ยอดเงินสูงสุดที่เกษตรกรได้รับ 4,110 บาท
- ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ราคาอยู่ที่ 19.19 บาทต่อกิโลกรัม จ่ายชดเชย 3.01 บาทต่อกิโลกรัม ยอดเงินสูงสุดที่เกษตรกรได้รับ 3,010 บาท
เมื่อรวมการจ่ายเงิน ประกันรายได้ เกษตรกรตั้งแต่งวดที่ 1-3 จะคิดเป็นวงเงินรวมทั้งสิ้นกว่า 6,000 ล้านบาท
ราคายางแนวโน้ม “ลดลง-ทรงตัว”
นายณกรณ์ กล่าวต่อว่า สำหรับในช่วงเดือนที่ผ่านมา เกษตรกรชาวสวนยางสามารถกรีดยางได้มากขึ้นหลังจากฝนทิ้งช่วง ทำให้ผลผลิตออกมาสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ก่อนจะเข้าสู่ช่วงปิดกรีดและผลผลิตจะลดลง ราคายางจึงมีแนวโน้มลดลงตามสถานการณ์ตลาด รวมถึงการชะลอการรับสินค้าของประเทศผู้ซื้อรายใหญ่
เช่น ประเทศจีนที่กำลังจะเข้าช่วงตรุษจีน ซึ่งเป็นวันหยุดยาวจะไม่รับสินค้าในช่วงดังกล่าว ประเทศสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศยุโรปที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ตู้ขนส่งสินค้าตกค้างอยู่ในประเทศ จนเกิดปัญหาการขาดตู้ขนส่งสินค้า ทำให้เป็นอุปสรรคในการส่งออกเช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม ความต้องการน้ำยางของตลาดในประเทศ และตลาดต่างประเทศยังคงมีสูง ทั้งจากสถานการณ์ของโรคระบาด ทำให้อุตสาหกรรมถุงมือยางขยายตัวสูงขึ้น และการที่ประเทศจีนส่งเสริมการใช้รถยนต์ในเมืองชนบท จะส่งผลให้จากนี้ไปราคายางจะยังคงทรงตัวอยู่ในแนวนี้ไปอีกระยะหนึ่ง แต่จะขยับตัวขึ้นจากนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ กยท. ได้ออกมาตรการกระตุ้นการดึงน้ำยางสดออกจากตลาดกว่า 200,000 ตันต่อปี ได้แก่ มาตรการกระตุ้นการซื้อน้ำยางสดมาแปรรูป เดินหน้าโครงการการชะลอยาง เก็บสต๊อกยาง รวมถึงบทบาทของหน่วยธุรกิจของ กยท. ที่เร่งเดินหน้าหาผู้ซื้อต่างประเทศ ตอนนี้มีผู้ซื้อจากหลายประเทศสนใจสั่งซื้อยางแปรรูปของไทย โดยเฉพาะประเทศมาเลเซียที่สนใจสั่งซื้อน้ำยางสดและน้ำยางข้น เพื่อนำเข้าไปผลิตเป็นถุงมือยาง ดังนั้น มาตรการทั้งหมดนี้ จะช่วยผลักดันให้ราคายางในตลาดสูงและมีเสถียรภาพขึ้น
ราคา ประกันรายได้ “ชาวสวนยางพารา”
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบโครงการ ประกันรายได้ เกษตรกรชาวสวนยาง ระยะที่ 2 โดยจะจ่ายเงินประกันรายได้เป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 6 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ถึง เดือนมีนาคม 2564 ภายใต้กรอบงบประมาณทั้งสิ้นกว่า 1 หมื่นล้านบาท
ราคาประกันรายได้ที่โครงการตั้งไว้ คือ
- ยางแผ่นดิบคุณภาพดี ราคา 60 บาทต่อกิโลกรัม ปริมาณผลผลิต 20 กิโลกรัมต่อไร่
- น้ำยางสด (DRC 100%) ราคา 57 บาทต่อกิโลกรัม ปริมาณผลผลิต 20 กิโลกรัมต่อไร่
- ยางก้อนถ้วย (DRC 50%) ราคา 23 บาทต่อกิโลกรัม ปริมาณผลผลิต 50 กิโลกรัมต่อไร่
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เช็คเลย! ส่วนต่าง ‘ประกันรายได้ ประกันราคาข้าว’ 2563/64 งวด 12
- ส่วนต่าง ‘ประกันราคามันสำปะหลัง’ งวด 2 กิโลฯ ละ 20 สตางค์ ลุ้นจ่าย 30 ธ.ค.
- งวดแรกโอนมาแล้ว เปิด 3 วิธีเช็คเงิน ‘ประกันราคายางพารา’ เข้าบัญชีหรือยัง?