The Bangkok Insight

คมนาคมนัด ทล.- กทพ. สรุปแผนทำ ‘ทางด่วนไร้ไม้กั้น’ พรุ่งนี้

 

“ศักดิ์สยาม” นัด ทล.-กทพ. เคาะสรุป “ฟรีโฟลว์” ทางด่วนไร้ไม้กั้นพรุ่งนี้ โดยกรมทางหลวงมั่นใจเริ่มได้ต้นปี 64 นำร่อง 4 ด่าน ด่านทับช้าง, 1 ด่านทับช้าง 2, ด่านธัญบุรี 1 และด่านธัญบุรี 2 และ กทพ.นำร่องทางพิเศษฉลองรัช ด่านจตุโชติ, ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านรามอินทรา

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการนำร่องการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (ฟรีโฟลว์) ว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมเตรียมความพร้อม ที่จะนำระบบเก็บค่าผ่านทางอัจฉริยะรูปแบบใหม่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบนทางด่วน และทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ ลดความแออัดของรถบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทาง

ล่าสุด ทล.มีการเปิดประกวดราคาเรียบร้อยแล้ว และตามแผนงานจะเริ่มให้ประชาชนเข้ามาลงทะเบียนเพื่อขอเข้ารับบริการได้ประมาณกลางเดือนธันวาคมนี้ โดยกรมทางหลวง จะนำร่องบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 ในช่วงต้นเดือน มกราคม 2564 โดยจะมีด่านนำร่องจำนวน 4 ด่าน ได้แก่ ด่านทับช้าง 1 ขาออก 4 ช่องจราจร, ด่านทับช้าง 2 ขาเข้า 4 ช่องจราจร, ด่านธัญบุรี 1ขาเข้า 4 ช่องจราจร และด่านธัญบุรี 2 ขาออก 4 ช่องจราจร

shutterstock 1802624704

ส่วนมอเตอร์เวย์ สาย 7 สาย กทม.-พัทยา-มาบตาพุด จะเริ่มใช้ M-Flow ภายในสิ้นปี 2564 และหลังจากนั้นจะใช้ระบบ M-Flow ในทุกเส้นทางของมอเตอร์เวย์ และเส้นมอเตอร์เวย์ สายบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว จะเป็นเส้นทางแรกที่ใช้ระบบ M-Flow เชื่อมต่อกับทางด่วน พระราม3-ดาวคะนอง ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) แบบไร้รอยต่อ

ทั้งนี้ การประกวดราคา ทล.จะเป็นการว่าจ้างเอกชนเข้ามาบริหารจัดการวางระบบ เก็บค่าผ่านทางแบบไร้ไม้กั้นแทน ทล. ด้วยการใช้เทคโนโลยี AI มาพัฒนาระบบจัดเก็บค่าผ่านด้วยกล้องตรวจบันทึกภาพป้ายทะเบียนรถ โดย ทล.ว่าจ้างเอกชนเฉลี่ยที่ 2 บาท/คัน โดยเอกชนจะประกันรายได้ให้ ทล.ทุกคัน

ปัจจุบันทางพิเศษสาย 9 มีรถใช้บริการผ่านด่านประมาณ 300,000 คัน/วัน ซึ่งระบบนี้จะทำให้ผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯ โดยไม่ต้องหยุดหรือชะลอรถ ด้วยความเร็วได้ถึง 160 กม./ชม. ช่วยระบายรถได้ 2,000-2,500 คัน/ชม./ช่องทาง

อย่างไรก็ตาม ระบบดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้ทางผ่านบริเวณด่านสามารถทำความเร็วขึ้นกว่าระบบเดิมที่ใช้อยู่ถึง 5 เท่า ระบบรองรับการใช้งานกับรถยนต์ทุกประเภท ที่ได้รับอนุญาตให้วิ่งบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือทางพิเศษ ทั้งรถยนต์ 4 ล้อ รถยนต์ 6 ล้อ และรถยนต์มากกว่า 6 ล้อขึ้นไป ชำระค่าธรรมเนียมผ่านวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หลังการใช้บริการ หรือ ระบบ Post Paid ทั้งแบบชำระเป็นรายครั้ง หรือชำระตามรอบบิล รวมไปถึงการชำระผ่านเว็บไซต์ หรือโมบายแอปพลิเคชันของระบบ M-Flow

ตลอดจนการชำระด้วยระบบ QR Code และการชำระผ่านระบบตัดเงินอัตโนมัติ ซึ่งระบบดังกล่าวได้มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในต่างประเทศเช่น เกาหลี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และประเทศในแถบยุโรป

shutterstock 1445659961

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.) กทพ.จะรายงานให้ที่ประชุมร่วมระหว่าง กรมทางหลวง (ทล.) และ กทพ. ซึ่งมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธาน เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการนำร่องการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ แบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow)

ในส่วนของ กทพ.มั่นใจว่า มีความพร้อมที่จะนำระบบมาใช้ในเดือน มิถุนายน 2564  โดย กทพ.จะนำร่องการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ในระยะแรกที่ด่านฯ จตุโชติ, ด่านสุขาภิบาล 5-1 และด่านฯ รามอินทรา ของทางพิเศษฉลองรัช รวมถึงนำไปใช้กับทางพิเศษที่ กทพ.กำลังก่อสร้าง คือ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก และโครงการทางพิเศษฉลองรัช-นครนายก-สระบุรี อีกด้วย

ทั้งนี้ ยอมรับว่าในการดำเนินการนำร่องการเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้นนี้ ในส่วนของ กทพ.มีอุปสรรคบ้าง เช่น ปัญหากรณีที่จะดำเนินการปรับผู้ใช้ทาง ที่หลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าผ่านทาง ซึ่งในส่วนนี้การดำเนินการ ยังไม่มีประกาศกฎกระทรวงฯ รองรับซึ่งจะทำให้ กทพ.ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่ชัดเจน

ส่วนที่ 2 คือการที่ กทพ.จะต้องมีการปรับระบบจัดเก็บพอสมควร เนื่องจากที่ผ่านมาการเก็บค่าผ่านทางของ กทพ. เป็นระบบที่เก็บก่อนการใช้บริการ หรือ Prepaid หรือระบบเติมเงินก่อนใช้แบบ Easy Pass แต่การเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้นนี้ จะมีลักษณะของการใช้บริการไปก่อน แล้วจึงเรียกเก็บค่าผ่านทาง หรือ Postpaid

ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีการปรับระบบการจัดเก็บค่าผ่านทางบ้าง แต่ก็เชื่อว่าจะทันตามกำหนดเวลาที่จะเริ่มนำร่องในด่านฯ ที่เป็นเป้าหมาย ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo