ดาวโจนส์ขยับขึ้น ทองคำร่วง นักลงทุนรอความชัดเจนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากพรรครีบพับลิกัน กับ เดโมแครต หันมาเจรจากันอีกครั้ง ขณะที่ไอเอ็มเอฟเตือนการฟื้นตัวเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยง
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวกเล็กน้อย โดยนักลงทุนกำลังรอความชัดเจนข้อตกลงระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน ที่จะกลับมาเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 อีกครั้ง ในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้น
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 29,483.23 จุด เพิ่มขึ้น 44.81 จุด หรือ +0.15%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,581.87 จุด เพิ่มขึ้น 14.08 จุด หรือ +0.39%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,904.71 จุด เพิ่มขึ้น 103.11 จุด หรือ +0.87%
ตลาดหุ้นเอเชียแกว่งตัวตามตลาดหุ้นสหรัฐ ทั้งตลาดหุ้นนิเกอิ ออสเตรเลียและฮั่งเส็ง โดยตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ที่รุนแรงขึ้นในหลายประเทศ ทำให้วิตกว่าจะมีการเพิ่มมาตรการล็อกดาวน์ และจะกระทบกิจกรรมทางเศรษฐกิจเหมือกับในช่วงที่ล็อกดาวน์ก่อนหน้านั้น
ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) และกลุ่ม G-20 ได้ออกมาเตือนในการประชุมที่ซาอุดิอาระเบียว่าการฟื้นตัวเศรษฐกิจในปีนี้ยังมีความเสี่ยงสูงมาก จากการระบาดรุนแรงรอบใหม่ ซึ่งจะกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจของครัวเรือนและภาคธุรกิจ
ไอเอ็มเอฟระบุว่าแม้จะมีการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 ช่วยผลักดันราคาสินทรัพย์ แต่ไม่สอดคล้องกับภาคเศรษฐกิจจริง และทำให้มีความเสี่ยงในภาคการเงิน โดยประเทศที่มีความเสี่ยง คือ อินเดีย
ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง จากเงินดอลลาร์แข็งค่า และจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมา ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น โดยราคาทองคำตลาด COMEX ลดลง 12.4 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 1,861.5 ดอลลาร์/ออนซ์
อย่างไรก็ตาม ทองคำยังให้ผลตอบแทนดีที่สุดในปีนี้ โดยพุ่งขึ้น 23% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ขานรับการผ่อนคลายนโยบายการเงิน และการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางทั่วโลก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘ดาวโจนส์’ ร่วง 3 วันติด หวั่นโควิดระบาดแรง สกัดเศรษฐกิจฟื้นตัว
- อังค์ถัดคาดเศรษฐกิจโลกหดตัว 4.3% จากโควิด มีวัคซีนยังอีกนานฟื้นตัว
- ‘เศรษฐกิจเอเชีย’ อ่วมหนัก ‘ไอเอ็มเอฟ’ หั่นคาดการณ์ ปี 63 ‘ไทย’ ติดลบ 7.1%