“บ้านปู” ไม่หวั่นความท้าทายจากปัจจัยเสียง เดินหน้ากลยุทธ์ Greener เต็มพิกัด ลุยซื้อแหล่งก๊าซฯ “บาร์เนตต์” รัฐเท็กซัส มูลค่า 23,907 ล้าน เผยคืนทุน 6 ปี สำรองสูงอย่างน้อย 16 ปี ขึ้นแท่นเป็นผู้นำธุรกิจก๊าซฯ 20 อันดับแรกของสหรัฐ พร้อมติดเครื่อง “บ้านปู เน็กซ์” เร่งขยายพอร์ตพลังงานสะอาด-เทคโนโลยีพลังงาน ตอบเทรนด์อนาคต
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู กล่าวว่า ธุรกิจพลังงานในช่วงปี 2562 สะท้อนถึงความท้าทายจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าของประเทศคู่กรณี ความต้องการใช้พลังงานชะลอตัว จากปัจจัยสภาวะอากาศ ที่ไม่หนาวเย็นนักในช่วงฤดูหนาวของซีกโลกเหนือ และการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามบ้านปู ยังเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจ ด้วยกลยุทธ์ Greener สร้างการเติบโตธุรกิจพลังงานสีเขียว โดยเพิ่มสัดส่วนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ พร้อมกับจัดตั้งบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด เพื่อพัฒนา และต่อยอดธุรกิจพลังงานสะอาด และเทคโนโลยีพลังงาน รองรับเทรนด์พลังงานแห่งโลกอนาคต ซึ่งจะเห็นความคืบหน้าเป็นรูปธรรมในปีนี้
โดยเมื่อเดือนธันวาคม 2562 บ้านปู ลงทุน 770 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 23,907 ล้านบาท โดยเข้าซื้อแหล่งก๊าซฯ “บาร์เนตต์” ในมลรัฐ เท็กซัส สหรัฐ ซึ่งมีความต้องการใช้ก๊าซฯมากที่สุดในสหรัฐ คิดเป็น 15% ของความต้องการใช้ก๊าซฯรวมของประเทศ การซื้อแหล่งนี้ ส่งผลให้บ้านปู ขึ้นเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจก๊าซฯ 20 อันดับแรกของสหรัฐ
นอกจากนี้การเข้าซื้อกิจการแหล่งก๊าซฯ บาร์เนตต์ ถือว่าอยู่ในช่วงเวลา และราคาที่น่าพึงพอใจ ทั้งยังมีความเสี่ยง และมีต้นทุนการดำเนินการที่ต่ำ ยกระดับศักยภาพของบ้านปู ให้มีพอร์ตทางธุรกิจที่หลากหลาย ตอบรับกับความต้องการในหลากหลายพื้นที่ และต่อยอดศักยภาพบริหารทรัพยากรด้านธุรกิจก๊าซฯ ของบ้านปู
จากเดิมที่มีแหล่งก๊าซฯ Marcellus ในพื้นที่ตะวันออกเฉียง เหนือของมลรัฐเพนซิลเวเนียอยู่แล้ว นอกจากนี้ การเข้าซื้อบาร์เนตต์ฯ ยังมีโอกาสคืนทุนได้เร็ว ภายใน 6 ปี ขณะที่มีปริมาณสำรองการผลิตระยะยาวอย่างน้อย 16 ปี
นอกจากนี้ บ้านปู ยังปรับทัพทางธุรกิจ โดยการจัดตั้ง บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ที่มีทุนจดทะเบียน 7,919 ล้านบาท แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นบริษัทหลัก (Flagship) ของกลุ่มบริษัทบ้านปูในการลงทุน และพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงาน
อาทิ การดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การให้บริการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด การออกแบบ และผลิต ยานยนต์ไฟฟ้า การผลิต และจำหน่ายแบตเตอรี่ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน และระบบการจัดการเทคโนโลยีพลังงาน เสริมทัพสมาร์ทโซลูชัน ด้านพลังงานอย่างครบวงจร
โดยปี 2562 มีความคืบหน้าแล้ว ทั้งการขยายพอร์ตธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคากับลูกค้าระดับพรีเมี่ยมทั่วประเทศ แผนความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ทั้งการขนส่งสินค้า และพัสดุไปรษณีย์ด้วยยานยนต์ไฟฟ้า และการขยายกำลังผลิตโรงงานแบตเตอร์รีลิเธียมอิออน 1 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง
ขณะเดียวกันก็สร้างพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ ๆ พร้อมกับรุกขยายธุรกิจ ตอบโจทย์ตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและฉับไว
“ความมุ่งมั่นของบ้านปู เราต้องการเติบโตในพอร์ตพลังงานสะอาด ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และตั้งใจในการดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนตามหลัก ESG ทั้งด้าน สิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และการกำกับดูแลกิจการ (Governance)”
นายสมฤดี ย้ำว่า กลยุทธ์ Greener & Smarter รวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ การเสริมสร้างแพลตฟอร์ม ทางธุรกิจที่เอื้อประโยชน์และส่งเสริมซึ่งกัน และกัน ระหว่างกลุ่มธุรกิจทั้งหมดของเราใน 10 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เป็นหัวใจหลักในการเดินหน้าสร้างการเติบโตที่ตอบรับกับเทรนด์พลังงานแห่งโลกอนาคตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาว
ทั้งในส่วนธุรกิจที่สร้างรายได้หลัก ให้บ้านปูในปัจจุบัน คือกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน ซึ่งนอกจากจะปรับปรุงคุณภาพและลดต้นทุน แล้ว ยังขยายตลาดที่มีศักยภาพใหม่ ๆ อาทิ อินเดีย และบังคลาเทศ ส่วนในกลุ่มธุรกิจผลิตพลังงาน จะเดินหน้าให้เป็นไปตามเป้าหมาย ในการมีกำลังผลิตรวม 5.3 กิกะวัตต์เทียบเท่า ภายในอีก 5 ปี โดยให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่เน้นประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2562 ของบริษัท มีรายได้จากการขายรวม 2,759 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 85,660 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 722 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 22,416 ล้านบาท คิดเป็น 21% มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) รวม 695 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 21,578 ล้านบาท ลดลง 41% จากปีก่อนหน้า
และมีกำไรสุทธิ ก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนคิดเป็นจำนวน 75 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2,329 ล้านบาท ปรับลดลง 66% จากปีก่อนหน้า จากการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดผลขาดทุนจากการแปลงค่างบการเงินจำนวน 95 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 2,950 ล้านบาท งบการเงินรวมจึงได้บันทึกขาดทุนสุทธิจำนวน 20 ล้านดอลลาร์หรือ ประมาณ 621 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัท บ้านปู ดำเนินธุรกิจแหล่งพลังงาน ธุรกิจผลิตพลังงาน และธุรกิจเทคโนโลยีพลังงานใน 10 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย จีน ออสเตรเลีย ลาว มองโกเลีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหรัฐ และเวียดนาม สำหรับสถานะทางการเงินของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 8,542 ล้านดอลลาร์เพิ่มขึ้น 88 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561
