คงต้องขอแสดงความยินดีกับรัฐมนตรี “ประยุทธ์2” ทั้งรัฐมนตรีป้ายดำ ป้ายแดง แต่ท่านดูมีความตั้งใจทำงานกันถ้วนหน้า เห็นได้จากความกระตือรือร้น อยากจะเข้าประจำการตามกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรไป รัฐมนตรีป้ายแดงบางคน อาจจะยังไม่ถนัดกับการเข้าประจำกระทรวงวันแรก เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพบปะหัวหน้าส่วนราชการสักเท่าไหร่ อย่าง อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
ถึงขั้นที่ผู้เป็นพ่ออย่าง วิรัช รัตนเศรษฐ ถึงกับต้องกรุยทางเข้ากระทรวงคมนาคม พร้อมทีมงานร่วม 20 ชีวิต อัญเชิญพระพุทธรูป 2 องค์ ขึ้นไปบนประดิษฐาน ณ ราชรถ 2 ซึ่งเป็นห้องทำงานของ อธิรัฐ รัตนเศรษฐ พร้อมรอต้อนรับลูกชายรัฐมนตรีป้ายแดง ก่อนที่ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ หัวเรือใหญ่เดินทางเข้ากระทรวงคมนาคม และ ถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม
เอาละ..วันแรกยังอาจจะไม่ถนัด แต่นับจากนี้การบริหางานในกระทรวงนี้ ก็ต้องโชว์ฝีไม้ลายมือด้วยตัวเองนะจ๊ะ
เช่นเดียวกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ นำทีม 3 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ทั้ง ประภัตร โพธสุธน, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ เข้าสักการะศาลพระภูมิและพระพิรุณทรงนาค สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง กระทรวงนี้ดูเหมือนใช้รัฐมนตรีช่วยมากที่สุด
ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็นำลูกทีมรัฐมนตรีช่วยอย่าง สาธิต ปิตุเดชะ เข้าประจำกระทรวง มีข้าราชการระดับสูงให้การต้อนรับอย่างคับคั่งและอบอุ่น
เช่นเดียวกับ พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เข้ากระทรวงัวนแรก สักการะศาลพระภูมิซึ่งถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ บริเวณสวน 4 ภาค บอกด้วยว่าวาระเร่งด่วนทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น
ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าปฏิบัติหน้าที่เป็นสมัยที่ 2 ได้สักการะศาลพระชัยมงคล ศาลพระกาฬไชยศรี และพระอนุสาวรีย์สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พร้อม ทรงศักดิ์ ทองศรี และ นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงฯ
ส่วนที่กระทรวงพาณิชย์ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยืนยันแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำทั้งราคาสินค้าเกษตร การส่งออก ราคาสินค้าภายในประเทศ และเปิดเสรีการค้า และอีกหลายๆกระทรวงที่รัฐมนตรีต่างทยอยเข้ากระทรวงกัน
เอาละ..นับจากนี้ไปก็ต้องว่าด้วยฝีมือของรัฐมนตรีแต่ละคนแล้ว ว่าจะบริหารงานที่รับผิดชอบ ให้เป็นที่ประจักษ์สายตาต่อชาวบ้านได้เหมือนกับตอนหาเสียงหรือไม่ หรือว่าจะเป็นเพียง “ลมปาก” ฉะนั้นจากนี้ไปพี่น้องประชาชน ก็ต้องช่วยกันตรวจสอบการทำงานของรัฐมนตรี ให้สมกับราคาคุยที่ให้ไว้
วันนี้เข้ากระทรวงอาจจะยังดูชื่นมื่น เมื่อถึงเวลาแบ่งหน่วยงานรับผิดชอบของแต่ละกระทรวง หวังว่าคงไม่เกิดอาการ แย่งกรม กองดีๆ เหมือนเมื่อครั้งแย่งกระทรวงเกรดเอ เกรดบี
อันที่จริงดูแลกรม กองไหนไม่สำคัญ อยู่ที่ฝีมือการบริหารต่างหาก หากเป็นรัฐมนตรีที่มีความรู้ความสามารถเชื่อว่านั่งตรงไหน คุมหน่วยงานอะไรไม่ก็ไม่น่าจะเป็นประเด็น
เมื่อเข้ามาบริหารงานเต็มตัวแล้ว สิ่งที่ต้องพึงระลึกเสมอ นั่นคือการบริหารประเทศเพื่อให้บ้านเมืองไปข้างหน้า ต้องแก้ปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนที่กำลังเดือดร้อนอยู่แล้วนี้ ขออย่าฉวยโอกาสบริหารปากท้อง เพื่อนพวกพ้องจนเกินงาม เพราะประเทศไม่ใช่ของพรรคการเมืองใด พรรคการเมืองหนึ่ง หรือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่มันเป็นของประชาชนคนทั้งประเทศ
สำคัญไปกว่านี้ อะไรที่ไม่ดีไม่งาม อะไรที่ซุกซ่อนอยู่ใต้พรหม โดยเฉพาะของเน่าเสีย รัฐมนตรีที่เข้าไปประจำการกรุณาตรวจสอบด้วย หากเรื่องเหล่านั้นไม่ถูกต้อง อย่าอยู่ในสภาพ เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม หากทำดีอยู่แล้วกรุณาสานต่อไป