Stock

ก้าวต่อไปของ ‘GULF-INTUCH’ และ ‘THCOM’

หลังจากที่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ประกาศทุ่มเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับซื้อหุ้น บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM โดยในส่วนแรก จำนวน 4,472.64 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้นจาก บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ซึ่งถืออยู่ในสัดส่วนทั้งหมด 41.13% ในราคาหุ้นละ 9.92 บาท

ภายหลังจากการเข้าซื้อหุ้น THCOM จาก INTUCH ตามข้างต้นเสร็จสิ้น GULF จะดำเนินการซื้อหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดของ THCOM โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Tender Offer) ของ THCOM จำนวนทั้งสิ้น 645,231,020 หุ้น คิดเป็น 58.87% ของหุ้นทั้งหมด ราคาหุ้นละ 9.92 บาท โดยคิดเป็นจำนวนเงินรวมประมาณ 6,400.69 ล้านบาท

GULF

หมายความว่าภายหลังจากที่ดีลนี้สำเร็จลุ GULF จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 รายใหม่ของ THCOM แทนที่ INTUCH ทันที และขึ้นแท่นเจ้าของกิจการดาวเทียมแห่งเดียวของประเทศไทย

บริษัทประเมินว่าเป็นการลงทุนที่มีความน่าสนใจ และเหมาะสมในหลายมิติ ทั้งด้านยุทธศาสตร์ การเติบโต และเพิ่ม ศักยภาพการต่อยอดไปยังธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพราะเป็นการลงทุนในธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยี ซึ่งยังมีโอกาสพัฒนาธุรกิจได้หลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง

ความน่าสนใจของดีลนี้ คือหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้องกันถึง 3 ฝ่าย คือ GULF, INTUCH และ THCOM ซึ่งก็มีความสัมพันธ์ที่ซ้อนทับกันอยู่แล้วก่อนหน้านี้ ดังนั้น เราจึงได้สรุปมุมมองจากบทวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย เพื่อให้เห็นภาพทิศทางที่ชัดเจนของทั้ง 3 บริษัทว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร

GULF ก้าวแรกในธุรกิจอวกาศ

อันดับแรกเลยคือการจัดหาเงินลงทุนจำนวน 4,472.64 ล้านบาท ที่จะต้องจ่ายให้กับ INTUCH สุดท้ายแล้ว GULF ก็จะได้รับเป็นเงินปันผลกลับคืนมาอยู่ดี ที่ประมาณ 2,470 ล้านบาท เนื่องจาก INTUCH ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลจากเงินที่ได้จากการขายหุ้น THCOM ในครั้งนี้ด้วย ซึ่งปัจจุบัน GULF เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ INTUCH ที่สัดส่วน 40.33%

มีมุมมองเชิงบวกจากราคาเข้าซื้อที่ราคา 9.92 บาท ถือว่าเป็นมูลค่าที่ค่อนข้างถูก เมื่อเทียบกับราคาตลาดที่ 11.40 บาท พร้อมทั้งมองว่า กำไรและมูลค่าที่คาดจะเพิ่มขึ้นจากการประเมินกำไร THCOM ปี 2566 ที่ 571 ล้านบาท คิดเป็นราว 1.3% ต่อประมาณการกำไรของ GULF ในปี 2566

นอกจากนี้ จะมี upside เพิ่มเติมจากการก้าวเข้าสู่ธุรกิจใหม่ เช่น ศูนย์กลางอวกาศ และข้อมูลดาวเทียมสำหรับภาคธุรกิจ เป็นต้น

แนะนำ “ถือ” หุ้น GULF ด้วยราคาเป้าหมาย 49 บาท อย่างไรก็ตาม GULF กำลังพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าจำนวนหนึ่งที่จะช่วยสร้างการเติบโตในระยะยาว และกำลังศึกษาธุรกิจที่ไม่ใช้พลังงาน เช่น โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ที่จะทำให้เกิดกระแสรายได้ใหม่และเพิ่มการเติบโตในระยะยาว

GULF

INTUCH หลังออกจากธุรกิจดาวเทียม

บริษัทคาดว่า ขั้นตอนการขายหุ้น THCOM ทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/66 และมีแผนจะนําเงินที่ได้รับมาจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้น เพราะฉะนั้น ธุรกรรมนี้จะช่วยเพิ่มการจ่ายเงินปันผลของ INTUCH ให้อยู่ในระดับสูงสุดที่ 1.39 บาทต่อหุ้น และเพิ่มราคาเป้าหมายของ INTUCH สิ้นปี 2566 ขึ้น 0.29 บาทต่อหุ้น มาอยู่ที่ 81.84 บาทต่อหุ้น

ทว่าในเชิงลบ การที่ INTUCH ขายหุ้น THCOM และการยุติโครงการ InVent ซึ่งเป็น Venture Capital ที่ลงทุนมานานกว่า 10 ปี จะทําให้เหลือเพียง ADVANC เป็นธุรกิจเดียวของ INTUCH ซึ่งการที่เป็น Holding Company จึงอาจมีความเสี่ยงที่ INTUCH อาจถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ

THCOM ยังขาดความชัดเจนเรื่องธุรกิจอวกาศใหม่

ราคาขายหุ้นที่ 9.92 บาท ถือว่าสูงกว่าราคาเป้าหมายเดิม ที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ที่ 9.22 บาท แต่ต่ำกว่าราคาตลาดที่ 12.3 บาท แต่การที่ GULF เข้ามาถือหุ้นใหม่ มองว่าจะเป็นผู้สนับสนุนที่เหมาะสม และสามารถเปลี่ยน THCOM จากผู้ประกอบการดาวเทียมระดับภูมิภาค ไปเป็นระบบนิเวศน์ของธุรกิจอวกาศใหม่ที่กว้างขึ้น

แต่หากยังไม่มีกลยุทธ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับธุรกิจอวกาศใหม่ ก็มองว่าเป็นความเสี่ยงเกินไปที่จะจ่ายพรีเมียมสูงกว่าราคา tender offer และคาดว่าราคาหุ้นอาจจะปรับลดลงในอนาคต

สิ่งที่ต้องลุ้นสำหรับ THCOM คือการเปิดประมูลตําแหน่งวงโคจรดาวเทียมรอบใหม่ของ กสทช. ที่คาดว่าจะเปิดประมูลได้ประมาณเดือนธันวาคม หลังจากที่เลื่อนมาหลายรอบ

GULF

อย่างไรก็ดี ลดคำแนะนำลงจาก “ถือ” เป็น “ขาย” หุ้น THCOM เพราะไม่มีความชัดเจนเรื่องธุรกิจอวกาศใหม่ ทิศทาง รวมไปถึงสถานะการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ยังไม่ชัดเจน หลังการ tender offer ของ GULF

สุดท้ายนี้คงต้องดูกันไปในระยะยาวว่า การหมุนมือเปลี่ยนผู้ถือหุ้นรอบนี้จะส่งผลต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจของทั้ง 3 บริษัทยังไงบ้าง ซึ่งที่น่าลุ้นที่สุดคงเป็น THCOM และ INTUCH ว่าจะเดินหน้าต่อด้วยแผนแบบไหน เพราะในส่วน GULF มองว่า โดยรวมแล้วไม่ได้ต่างจากเดิมนัก เพราะเพียงแต่เปลี่ยนจากการถือหุ้นทางอ้อมกลายเป็นถือหุ้นทางตรงเท่านั้นเอง 

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน