Stock

FETCO คาดหุ้นไทยสิ้นปีอยู่ที่ 1,685 จุด มองปี 66 เศรษฐกิจโลกผันผวนมากขึ้น

FETCO คาดหุ้นไทยสิ้นปีอยู่ที่ 1,685 จุด หลังเงินทุนต่างชาติที่ยังคงไหลเข้าต่อเนื่อง มองปี 2566 เศรษฐกิจโลกผันผวนมากขึ้น

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า FETCO ประเมินดัชนีปลายปี 2565 จะอยู่ที่ระดับ 1,685 จุด สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวในปัจจุบันที่ 1,585-1,709 จุด จากเงินทุนต่างชาติที่ยังคงไหลเข้าต่อเนื่อง หลังกองทุนต่าง ๆ อยู่ในช่วงของการปรับพอร์ตการลงทุน และมีการ Relocate มาในตลาดหุ้นที่มีเสถียรภาพ โดยเฉพาะตลาดอาเซียนที่นักลงทุนมองว่าเป็น Safe Haven

FETCO

อีกทั้งภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปี หลังจากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยแล้วกว่า 6 ล้านคน และคาดว่าจะแตะระดับ 10 คน ภายในช่วงสิ้นปีนี้ รวมถึงดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่เริ่มเป็นบวก ทำให้ค่าเงินบาทเริ่มกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้น

FETCO

อย่างไรก็ตาม มองปัจจัยบวกดังกล่าวถือเป็นภาพระยะสั้น เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะยังออกมาส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง เพื่อคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับ 2% ขณะเดียวกันก็มีเรื่องของ Recession หรือภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่รออยู่ข้างหน้าด้วย เนื่องจากมองว่าปี 2566 เศรษฐกิจโลกน่าจะผันผวนมากขึ้น รวมถึงตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) ก็น่าจะมีความผันผวนด้วยจากประเทศที่มีดอกเบี้ยพันธบัตรสูง และไม่สามารถชำระหนี้ได้ ทำให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ และส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อตลาดโดยรวม

FETCO

ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยในปีหน้ายังมีความเสี่ยงสูงอยู่ โดยมองแนวโน้มดัชนีในปีหน้า คาดว่าจะมีความผันผวน โดยน่าจะปรับตัวขึ้นได้ในช่วงต้นปี แต่เมื่อเข้าสู่กลางปีเป็นต้นไป อาจจะได้รับแรงกดดันจากตลาด Emerging Markets ที่ส่งผลกระทบมายังตลาดหุ้นไทย ซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเตรียมการรับมือ เพื่อให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ใน Emerging Markets

FETCO

“ผมมองว่าปีหน้ายังน่ากังวลใจ อยู่ที่ว่าเราจะสามารถดูแลภาพรวมของเราได้ดีแค่ไหน ถ้าเราเสริมภาคท่องเที่ยวได้ดีอีกนิด หรือนำเงินไปให้ภาคท่องเที่ยว และให้การท่องเที่ยวไทย (ททท.) โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ชักชวนให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไทยให้มากขึ้น แทนที่จะได้ 18 ล้านคน ตามที่รัฐบาลตั้งใจไว้ ก็อาจจะได้ 20-25 ล้านคน และจะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยมากขึ้น หนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ให้ดีขึ้น ค่าเงินบาทก็จะดีขึ้น” นายกอบศักดิ์ กล่าว

ายกอบศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสิ่งที่ต้องทำอีกเรื่อง คือ การดึงดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำเอาข่าวดีออกมา ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าคนคนนี้คือคนที่เข็มแข็ง ก็จะทำให้ปัญหาปีหน้าผ่อนหนักเป็นเบา และถ้าเกิดเราทำได้ดี ความเสียหายต่าง ๆ ก็จะมีไม่มากนัก

Avatar photo