Stock

หุ้น ‘New Economy’ คืออะไร ทำไมถึงน่าลงทุน

หมดยุคหุ้น Old Economy ถึงเวลาหุ้น New Economy แล้ว คงเป็นคำที่หลายคนได้ยินกันบ่อยครั้งมา่กขึ้นในช่วงหลังนี้ โดยเฉพาะหลังจากเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ที่ทำให้พฤติกรรมคนในยุคปัจจุบัน เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

คำถามคือ New Economy คืออะไร แตกต่างอย่างไรกับ Old Economy

New Economy แปลว่า “เศรษฐกิจยุคใหม่” คือ ระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ล้ำสมัย ธุรกิจส่วนใหญ่จึงเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ รวมถึงกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่เข้ามาแก้ pain point ต่าง ๆ ของผู้คน

หุ้น New Economy คืออะไร

ส่วน Old Economy คือ “เศรษฐกิจยุคเก่า” เป็นระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิม ที่มีมายาวนาน เช่น พลังงาน ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ การผลิต และการให้บริการแบบเดิม

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านหุ้นกลุ่ม New Economy เป็นที่สนใจ และถูกพูดถึงอย่างมาก เนื่องจากพฤติกรรมคนเราที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี

หุ้นกลุ่มนี้มักมีลักษณะเป็น Growth Stock นั่นคือมีโอกาสเติบโตสูงและรวดเร็ว แต่ก็แลกมากับความผันผวน และมูลค่าหุ้นที่มีราคาแพง

หุ้นกลุ่ม MATANA หุ้น New Economy ที่นักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตา

และถ้าจะพูดถึงตัวอย่างหุ้น New Economy ที่น่าจับตา เมื่อก่อนเราอาจจะนึกถึงหุ้นกลุ่ม “FAANG” ที่ประกอบด้วยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ Facebook, Apple, Amazon, Netflix และ Alphabet แต่ปัจจุบันเราเปลี่ยนความสนใจมาโฟกัสที่กลุ่มที่เรียกว่า “MATANA” มากกว่า

หุ้นกลุ่ม “MATANA” ประกอบไปด้วย Microsoft, Apple, Tesla, Aphabet, Nvidia และ Amazon ซึ่งยังคงเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ แต่เปลี่ยนหน้าโดยการนำ Facebook และ Netflix ออกจากกลุ่ม เนื่องจากการเติบโตที่หยุดชะงัก โดยช่วงที่ผ่านมาทั้งคู่มีจำนวนผู้ใช้บริการลดลงเรื่อย ๆ สาเหตุหลักมาจากการแข่งขันที่รุนแรงจากการเกิดคู่แข่งรายใหม่ที่แข็งแกร่งมาก เช่น Tiktok และ Disney+

โดยได้นำ Microsoft, Nvidia และ Tesla เข้ามาแทนที่ เพราะแนวโน้มธุรกิจเติบโตในระดับสูง มีการเติบโตเป็นเลขสองหลัก และราคาหุ้น Outperform ตลาดในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังเป็นหุ้นกลุ่มยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยี (Digital Giants) ที่เป็นหุ้นคุณภาพ มีความแข็งแกร่งของแบรนด์และบริการ มีฐานลูกค้าทั่วโลก

shutterstock 1914701269

อย่างไรก็ดี ประเด็นที่นักลงทุนต้องจับตามอง คือโอกาสการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ที่อาจส่งผลทางลบต่อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งหากธนาคารกลางสหรัฐ มีแผนขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสูงกว่าที่ตลาดคาด อาจส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มดังกล่าว ทำให้สมาชิกหุ้นในกลุ่ม MATANA อาจมีการเพิ่ม หรือว่าลดในอนาคต เหมือนที่เกิดขึ้นกับหุ้นในกลุ่ม FAANG เพราะผลการดำเนินงานในอดีต ไม่ได้การันตีถึงผลการดำเนินงานในอนาคต และอาจจะมีคู่แข่งใหม่ ๆ เข้ามาท้าทายกลุ่ม MATANA ได้เช่นกัน

ปัจจุบันมูลค่าตลาด (Market Cap.) ของตลาดหุ้น NASDAQ อยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์ ทว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ตระกูล MATANA มีมูลค่าตลาดรวมกันประมาณ 8,311 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นกว่า 40% ของตลาด NASDAQ

สำหรับหุ้นกลุ่ม New Economy ในไทย อาจจะยังไม่เห็นผู้เล่นรายใหญ่ ๆ เท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่ Growth Stock ที่เป็น Tech Company ในไทย ยังกระจุกตัวในหุ้นขนาดเล็กเสียมากกว่า เพราะว่าตลาดหุ้นบ้านเรา ยังมีความเกี่ยวพันกับวัฎจักรเศรษฐกิจอยู่มาก

อย่างไรก็ดี ไม่ได้หายความว่าหุ้นกลุ่ม Old Economy จะมีความน่าสนใจน้อยกว่าแต่อย่างใด เพราะสามารถตอบโจทย์แนวทางการลงทุนที่เรียกกันว่า หุ้นคุณค่า หรือ Value Stock อีกทั้งยังเป็นหุ้นที่ P/E ไม่สูงมาก มีความเสี่ยงต่ำกว่า และอาจมีการจ่ายปันผลให้นักลงทุนด้วย

ที่สำคัญหากเป็นหุ้น Old Economy ที่มีความสามารถในการปรับตัวและสามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพด้วย ก็จะกลายเป็นตัวเลือกทางการลงทุนที่น่าสนใจมากทีเดียว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน