‘หุ้นเบทาโกร’ เตรียมเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อวันที่ 10 – 17 ตุลาคม 2565 พร้อมวิธีจองหุ้น BTG ทำอย่างไร กับราคา IPO ที่ 40 บาท แพงเกินไปหรือไม่
ความคืบหน้าในการเข้าตลาดหุ้นของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG ใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว หลังแบบไฟลิ่งมีผลบังคับใช้ พร้อมเปิดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 40 บาทต่อหุ้น เตรียมเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อวันที่ 10 – 17 ตุลาคม 2565 ส่วนนักลงทุนสถาบันเปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 20 – 25 ตุลาคม 2565
เบทาโกร เป็นหนึ่งในหุ้นอาหารที่มีขนาดใหญ่ จากการประกอบธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารเพื่อการบริโภคแบบครบวงจร ด้วยประสบการณ์กว่า 55 ปี คำถามก็คือการเบทาโกรตัดสินใจเข้าตลาดในช่วงเวลาแบบนี้ จะมีสเน่ห์ดึงดูดนักลงทุนได้แค่ไหน เพราะอย่าลืมว่าปัจจุบันตลาดเต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยงมากมาย แถมก่อนหน้านี้ก็มีหุ้นเบอร์ใหญ่รายหลายเปิดต่ำจองให้เห็นมาแล้ว
จุดเด่นในการลงทุนหุ้น BTG
เมื่อเทียบกับบริษัทอาหารรายอื่นๆ ในตลาดหุ้น เราพบว่า BTG มีความแตกต่างอยู่หลายด้าน
ประเด็นแรก คือ แบรนด์ผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยเฉพาะสินค้าอาหารและโปรตีน เช่น “S-Pure” “BETAGRO” “ITOHAM” รวมไปถึงสินค้าเกษตร เช่น “Betagro” “Balance” “MASTER” และแบรนด์ธุรกิจสัตว์เลี้ยง เช่น “Perfecta” “DOG n joy” และ “CAT n joy” เป็นต้น ซึ่งถือว่าครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งในระดับพรีเมียม มาตรฐาน และคุ้มค่า
ประเด็นที่สอง คือ เน้นคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร หนึ่งในประเด็นเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) ที่ตลาดกำลังให้ความสำคัญอย่างมาก ซึ่ง BTG มีการพัฒนาคุณภาพอาหารให้มีระดับสูงตามมาตรฐานสากล และระบบความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity)
ประเด็นสุดท้าย คือ กลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจน จากความพร้อมของบริษัทที่จะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นสร้าง Value Added Product ในกลุ่มอาหารแปรรูป Ready-to-eat และ Ready-to-cook รวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยง เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จินสูงกว่าการขายสัตว์มีชีวิต อีกทั้งยังมีศักยภาพเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆ เช่น โปรตีนทางเลือก อาหารสัตว์เลี้ยงชนิดที่เป็นเนื้อสด (Fresh-meat pet food) และอาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อการรักษาโรค (Therapeutic pet food)
ปัจจัยความเสี่ยงของหุ้น BTG
สิ่งที่นักลงทุนควรระวังก่อนลงทุนหุ้น BTG มีดังนี้ ความเพียงพอและราคาของวัตถุดิบ, โรคระบาดในสัตว์, ราคาขายผลิตภัณฑ์ที่อาจผันผวน, ความเสี่ยงจากสภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่อาจสูงขึ้น, สิทธิพิเศษทางภาษี สิทธิประโยชน์ที่ได้จากภาครัฐ ผลประโยชน์จูงใจทางเศรษฐกิจ, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน, ความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดทุน จากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจทั่วโลกและโอกาสเกิด recession ในอนาคต
ราคา IPO แพงเกินไปหรือไม่
BTG กำหนดราคาเสนอขายที่ 40 บาทต่อหุ้น พิจารณาจากมูลค่ากิจการที่เหมาะสม และการสำรวจความต้องการลงทุนของผู้ลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศจาก รวมถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมในประเทศไทย และเศรษฐกิจโดยรวม จำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งสิ้นไม่เกิน 500 ล้านหุ้น แปลว่าบริษัทจะได้รับเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ไม่เกิน 80,000 ล้านบาท (กรณีรวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน และใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนเกินเต็มจำนวน)
เมื่อคำนวณ P/E ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา (1 ก.ค. 2564 – 30 มิ.ย. 2565) พบว่าที่ราคา 40 บาท BTG มีอัตราส่วน P/E เท่ากับ 21.2 เท่า เทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน CPF อยู่ที่ 25 เท่า GFPT 27.3 เท่า และ TFG 32.8 เท่า
สัดส่วนการจัดสรรหุ้น แบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันประมาณ 60% นักลงทุนรายย่อยตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ประมาณ 30% ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท บุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัท พนักงานและผู้มีอุปการคุณของบริษัท ประมาณ 10% นอกจากนี้ มีการเสนอขายให้ผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจง หรือ Cornerstone Investor ประมาณ 77% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายตั้งต้นแก่นักลงทุนสถาบัน พบว่า ผลตอบรับดี โดยมีผู้ลงทุนเฉพาะเจาะจงที่ได้รับการจัดสรรหุ้นทั้งหมด 25 ราย เป็นสถาบันชั้นนำที่จองซื้อในประเทศไทย 12 ราย และสถาบันชั้นนำในต่างประเทศ 13 ราย
วิธีจองหุ้น BTG ทำอย่างไร
สามารถจองซื้อหุ้น IPO ของ BTG ตั้งแต่วันที่ 10 – 17 ตุลาคมนี้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นลูกค้าบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ประกอบด้วย
1. บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)
2. บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน)
3. บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
4. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)
5. บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด
6. บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด
7. บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
8. บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามวิธีการจองซื้อตามช่องทางของผู้จัดจำหน่ายหุ้นข้างต้น โดยหุ้น BTG จะถูกจัดสรรตามดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ทั้งนี้ คาดว่าเบาทาโกร จะเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ภายในเดือนพฤศจิกายน 2565
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เจาะกลยุทธ์ร้านกาแฟ ในปั๊ม ‘OR – BCP – PTG’ แข่งกันเข้ม
- ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ‘AAV vs ITC’ กำลังจะเข้าตลาดหุ้นปีนี้
- สำรวจยอดเงินฝาก-สินเชื่อธนาคาร ช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น
