ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลงมาเล็กน้อย จากการที่นักลงทุนยังกังวลว่า การที่ “เฟด” ขึ้นดอกเบี้ยนานกว่าคาด จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 30,128.11 จุด ลดลง 55.67 จุด หรือ 0.18% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,768.19 จุด ขยับลงมา 21.74 จุด หรือ 0.57% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,088.13 จุด ร่วงลง 132.06 จุด หรือ 1.18%
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 500 จุดเมื่อวานนี้ (21 ก.ย.) หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทั้งยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปี 2566 ซึ่งสร้างความผิดหวังต่อนักลงทุน ที่คาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในปีหน้า
นอกจากนี้ นักลงทุนวิตกว่าการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังเฟดปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปีนี้เหลือเพียง 0.2%
ทั้งนี้ เฟดมีมติขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 3.00-3.25% ในการประชุมวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนแตะระดับ 4.6% ในปี 2566
ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดว่าจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 โดยคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีดังกล่าว และ 4 ครั้งในปี 2568 ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวลงสู่ระดับ 2.9%
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 4.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ และแตะ 4.6% ในสิ้นปี 2566 ก่อนที่จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 3.9% ในปี 2567 และทรงตัวที่ 3.9% ในปี 2568 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ 2.5%
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมอีก 2 ครั้งที่เหลือในปีนี้ หลังถอดสัญญาณจาก Dot Plot และถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมวานนี้
ทั้งนี้ ตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในเดือนพฤศจิกายน และปรับขึ้นอีก 0.50% ในเดือนธันวาคม
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 68.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พฤศจิกายน และให้น้ำหนัก 66.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธันวาคม
หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยตามคาดการณ์ดังกล่าว จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันถึง 4 ครั้ง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะพุ่งแตะระดับ 4.25-4.50% ในช่วงสิ้นปีนี้ และจะทำให้อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวสูงกว่าระดับ 2.50% ซึ่งเป็นระดับอัตราดอกเบี้ยที่เฟดมองว่าเป็นกลาง โดยไม่ผ่อนคลายหรือเข้มงวดจนเกินไป
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ฟันธง! เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% วันนี้ ก่อนขึ้นอีกเท่าเดิม เดือนพ.ย.
- คาด ‘เฟด’ เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ถึง มี.ค. 66 ก่อนคงดอกเบี้ยยาวเกือบ 1 ปี
- ‘พาวเวล’ ลั่นเดินหน้าสู้ ‘เงินเฟ้อ’ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ‘ครั้งใหญ่’ ก.ย.นี้