Stock

‘BEM’ เข้าป้ายชนะประมูล ‘รถไฟฟ้าสายสีส้ม’ อัพราคาเป้าหมาย 3 บาท

“BEM” เข้าป้ายชนะประมูล “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” อัพราคาเป้าหมาย 3 บาท หลังจากยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 2 ปี

หลังจากยืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 2 ปี ในที่สุดก็ได้เดินหน้าสักที สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทางรวม 35.9 กิโลเมตร โดยเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2565 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เป็นผู้ได้รับการคัดเลือกในโครงการดังกล่าว จากผลประโยชน์สุทธิที่ดีกว่ากลุ่มบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD

BEM เสนอผลประโยชน์สุทธิ (มูลค่าปัจจุบัน : NPV) เท่ากับ -78,287.95 ล้านบาท ขณะที่ ITD เสนอผลประโยชน์สุทธิ (มูลค่าปัจจุบัน : NPV) เท่ากับ -102,635.66 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลประโยชน์สุทธิ คือ เงินตอบแทนที่ผู้ยื่นข้อเสนอจะให้แก่ รฟม. หักลบด้วยจำนวนเงินสนับสนุนค่างานโยธาที่ผู้ยื่นข้อเสนอจะขอรับจาก รฟม. ดังนั้น ตัวเลขของทาง BEM จะทำให้รัฐจ่ายค่างานโยธาต่ำกว่าราคากลางที่ 96,000 ล้านบาท และให้เงินตอบแทนสูงกว่านั่นเอง

รถไฟฟ้าสายสีส้ม

ขั้นตอนต่อไป จะนำผลการประมูลดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการ รฟม. จากนั้นจะเสนอต่อกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการภายในสิ้นปีนี้

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) มีแนวเส้นทางเชื่อมระหว่างกรุงเทพมหานครทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร แบ่งเป็น ส่วนตะวันออก (ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ระยะทาง 22.5 กิโลเมตร จำนวน 17 สถานี (สถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี) และส่วนตะวันตก (ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย) ระยะทาง 13.4 กิโลเมตร จำนวน 11 สถานี (สถานีใต้ดินตลอดสาย)

รถไฟฟ้าสายสีส้ม

นักวิเคราะห์เพิ่มราคาเป้าหมายหุ้น BEM

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น BEM หลังประกาศผลผู้ชนะโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ในวันที่ 8 กันยายน 2565 ก็สะท้อนผลบวกทันที โดยทำราคาปิดตลาดที่ 9.15 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.10% มูลค่าการซื้อขาย 1,125.41 ล้านบาท ทำให้นับตั้งแต่ต้นปี ราคาหุ้น BEM ให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกไปแล้ว 7.02%

นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีที่กลุ่ม BEM เป็นผู้ชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม คาดว่าข่าวดังกล่าวจะส่งผลให้ราคาหุ้น BEM และ CK ให้ปรับตัวสูงขึ้น (งานของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม จะมีทั้งงานโครงการยกระดับ งานศูนย์ซ่อมบำรุง อาคารจอดแล้วจร งานระบบราง รวมไปถึงงานโครงการใต้ดิน จึงเป็นการผนึกกำลังระหว่าง BEM และ CK)

เบื้องต้นประเมินว่า จะส่งผลบวกให้เกิดอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายประมาณ 2 – 3 บาทต่อหุ้น จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BEM ที่ราคาเป้าหมาย 10.20 บาท (ยังไม่รวมมูลค่าโครงการใหม่) สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 6,803.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.80% และมีกำไรสุทธิ 970.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92% เนื่องจากปริมาณรถที่ใช้ทางด่วนและผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการกลับมาทำงานของภาคธุรกิจ และการกลับมาเรียน on site ของสถาบันการศึกษา

รถไฟฟ้าสายสีส้ม

ขณะที่ หุ้น CK หรือ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) แนะนำว่าสามารถเก็งกำไรได้ในเชิงกลยุทธ์ โดยคาดว่าจะทำให้มีโอกาสเพิ่มงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (backlog) ราว 1.3-1.6 เท่าตัว จาก 5.9 หมื่นล้านบาท กลับไปเกินแสนล้านบาทได้ อย่างไรก็ดี จะเป็นการรับรู้ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ถือว่าเป็นการปลดล็อคกันไปเป็นที่เรียบร้อย

สำหรับโครงการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มฝั่งตะวันตก เพราะปัจจุบันความคืบหน้าของสายตะวันออกก็ใกล้จะเสร็จแล้วซึ่งมีความคืบหน้าล่าสุดกว่า 96.58% เพื่อที่จะได้ทำให้สายนี้สามารถบรรจบกันเดินรถอย่างครบสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังเป็นการปลดล็อกมูลค่าหุ้น BEM และ CK ให้กลับมาฉายแววเด่นอีกด้วย

รถไฟฟ้าสายสีส้ม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน