Stock

หุ้นรับผลบวก เปิดตัว iPhone 14

สิ้นสุดการรอคอยสำหรับเหล่าสาวก APPLE กับการเปิดตัวเป็นอย่างทางการของ iPhone 14 และนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ประเทศไทยถูกขยับเป็นกลุ่ม Tier 1 สามารถจอง iPhone รุ่นใหม่ได้พร้อมกับประเทศกลุ่มแรก ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนนี้ โดยจะเริ่มจัดส่งสินค้าตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนเป็นต้นไป

รับผลบวก iPhone 14 e1663143223237

สำหรับราคา iPhone 14 ในประเทศ ล่าสุดประกาศทางการผ่านเว็บไซต์ Apple ประเทศไทยแล้ว ดังนี้
iPhone 14 เริ่มต้น 32,900 บาท
iPhone 14 Plus เริ่มต้น 37,900 บาท
iPhone 14 Pro เริ่มต้น 41,900 บาท
iPhone 14 Pro Max เริ่มต้น 44,900 บาท

ราคา iPhone 14 ในประเทศ ล่าสุด@300x 100

แน่นอนว่า iPhone ถือเป็นสินค้ายอดนิยมที่เป็นกระแส talk of the town อยู่เสมอในทุกครั้งที่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ดังนั้น บทความนี้เราจึงจะพามาดูกันว่าในตลาดหุ้นไทยมีหุ้นอะไรบ้างที่จะได้รับประโยชน์จากกระแสครั้งนี้

1. บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ร้านค้าในเครือ ประกอบด้วย Banana IT, Studio7, True Shop by COM7

2. บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW ร้านค้าในเครือ ประกอบด้วย iStudio by Copperwired, dot life

3. บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ร้านค้าในเครือ ประกอบด้วย Power Buy

4. บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ร้านค้าในเครือ ประกอบด้วย jamart mobile

5. บริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI ร้านค้าในเครือ ประกอบด้วย iStudio by SPVI, mobi by SPVI

6. บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX เป็นตัวแทนขายส่ง iPhone ในประเทศไทย

ตลาดหุ้นไทยมีหุ้นอะไรบ้างที่จะได้รับประ

โดยปกติแล้วทันทีที่ Apple ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ของปี จะถือว่าเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่มผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Apple ในประเทศไทย และมักเกิดการเก็งกำไรราคาหุ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ดี หลังจากนั้นด้านพื้นฐานธุรกิจก็จะได้รับบวกตามมาหลังมีการวางจำหน่ายสินค้า เนื่องจากเป็นสินค้าที่กระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ สำหรับใครที่เป็นสายลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ปัจจุบัน Apple เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ สหรัฐอเมริกา ใช้ Ticker Code ในการซื้อขายว่า “AAPL US” ปัจจุบันเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลก ประมาณ 2,503.98 พันล้านดอลลาร์ ซื้อขายที่ P/E 25.71 เท่า มี Dividend Yield อยู่ที่ 0.59%

ด้วยจุดแข็งของบริษัทที่มีระบบปฏิบัติการของตนเองนั่นคือ iOS และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งใน Ecosystem จึงทำให้ APPLE มีผลการดำเนินงานที่เติบโต และยังคงครองใจผู้บริโภคได้อย่างดี บริษัทมีรายได้และกำไรต่อหุ้นเติบโตต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2562-2564 โดย CFRA Research คาดการณ์ว่าบริษัทจะมีรายได้เติบโตต่อเนื่องในปี 2565 และ 2566 นอกจากนี้ APPLE ยังสามารถจ่ายเงินปันผลออกมาได้อย่างสม่ำเสมอด้วย

เมื่อเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนของหุ้น APPLE กับดัชนี Nasdaq พบว่าท่ามกลางตลาดที่เต็มไปด้วยปัจจัยลบและความผันผวน แต่อย่างไรก็ดี บริษัทปรับตัวลงเพียงจากต้นปี (Year To Date) 12.25% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปรับตัวลงมากถึง 25.66% สะท้อนถึงความแข็งแกร่งกว่าตลาดของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่รายนี้

สุดท้ายนี้จะเห็นว่า ปรากฎการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในฐานะนักลงทุนเรามีทางเลือกมากมาย ทั้งการลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์ในตลาดหุ้นไทย และเข้าไปลงทุนกับบริษัทผู้ผลิตโดยตรงในตลาดต่างประเทศก็ได้ เพียงแต่ต้องมีข้อมูลที่ครบถ้วย และเข้าใจลักษณะธุรกิจที่ดีก่อนตัดสินใจลงทุน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน