ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (10 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พุ่งกว่า 500 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนกรกฎาคม ขยายตัวต่ำกว่าคาด ช่วยให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,309.51 จุด พุ่งขึ้น 535.10 จุด หรือ 1.63%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,210.24 จุด เพิ่มขึ้น 87.77 จุด หรือ 2.13% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 12,854.80 จุด พุ่งขึ้น 360.88 จุด หรือ 2.89%
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์ หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 8.5% ในเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 8.7% หลังจากพุ่งแตะระดับ 9.1% ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
ทั้งนี้ นักลงทุนปรับลดคาดการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลข CPI เดือนกรกฎาคม ที่ต่ำกว่าคาด โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 61.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 2.75-3.00% ในการประชุมวันที่ 20-21 กันยายน และให้น้ำหนักเพียง 38.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐร่วงลง เช่นเดียวกับ หุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ปรับตัวสูงขึ้น
หุ้นเทสลา พุ่งขึ้น 3.89% หลังจากนายอีลอน มัสก์ ขายหุ้นในบริษัทเทสลามูลค่า 6.9 พันล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าเพื่อเตรียมนำเงินมาใช้ในการสู้คดีกับบริษัททวิตเตอร์ หลังจากทวิตเตอร์ได้ยื่นฟ้องต่อศาลในรัฐเดลาแวร์ของสหรัฐ เพื่อเอาผิดนายมัสก์ ฐานละเมิดข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์วงเงิน 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ และได้ร้องขอให้ศาลออกคำสั่งให้นายมัสก์ดำเนินการซื้อกิจการตามราคาที่ตกลงกันไว้ 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘กอบศักดิ์’ เตือน ไทยเตรียมรับมือ ‘เศรษฐกิจถดถอย’ พร้อมกันทั่วโลก
- คัด ‘ 23 หุ้นมั่นคงสูง’ ฐานะการเงินแกร่ง รับมือเศรษฐกิจถดถอย
- อังกฤษวางแผนอัดเงินมหาศาล รับมือ ‘เศรษฐกิจถดถอย’ สาหัสสุดในรอบ 300 ปี