‘CK’ หุ้นได้ประโยชน์ ราคา โลหะขาลง มีความน่าสนใจในภาวะที่สินค้ากลุ่มโลหะปรับตัวลง และแรงกระตุ้นการเติบโตจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง
จากสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) กลุ่มโลหะ ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ประกอบด้วย อลูมิเนียม ที่ปรับลดลง 35% ทองแดง ลดลง 40% เหล็ก ลดลง 26% เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดในช่วงเดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน ณ เดือนสิงหาคม สำหรับสาเหตุที่ทำให้ราคาผลิตภัณฑ์โลหะ จะคงที่ต่อไป รวมถึงมีปัจจัยเสี่ยง downside risk มาจาก 4 ปัจจัยหลัก ดังนี้
1. เศรษฐกิจโลกยังมี downside risk
การเติบโตของเศรษฐกิจโลกยังมีโอกาสถูกปรับคาดการณ์ลงอีก จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น โดยเฉพาะจากฝั่งของสหรัฐ ปัจจุบันอยู่ที่ 2.5% โดยตลาดคาดการณ์ว่าสิ้นปีนี้ จะอยู่ที่ 3.5% – 4% ที่ผ่านมามีการปรับลดคาดการณ์ GDP อย่างต่อเนื่อง เพราะผลกระทบของการขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเราได้เห็นการเกิด technical recession ของเศรษฐกิจสหรัฐ ไปแล้วก่อนหน้านี้
2. เศรษฐกิจจีนมีความเสี่ยงมากขึ้น
รัฐบาลจีนเริ่มกังวลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจมากขึ้น และเริ่มเห็นปัญหาในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน ซึ่งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารขนาดเล็กของจีนบางแห่งเริ่มมีปัญหาสภาพคล่อง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจีนก็เริ่มได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ
3. ราคาพลังงานปรับตัวลง
ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงจากจุดสูงสุดมาประมาณ 20% ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ปรับลดลงไปด้วย
4. สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนมีโอกาสดีขึ้น
สถานการณ์สงครามไม่น่าจะหนักไปกว่าปัจจุบัน และมีโอกาสดีขึ้น หากสงครามเริ่มคลี่คลายจะลดความกดดันของสินค้าสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะรัสเซีย เป็นผู้ส่งออกหลักทั้งส่วนของพลังงานและแร่สำคัญ
โลหะขาลง หุ้น CK จะได้รับประโยชน์
ประเด็นดังกล่าวจะส่งผลดีต่อ ด้านต้นทุนของผู้ผลิตในหลายภาคอุตสาหกรรม บทวิเคราะห์ บล.เคทีบีเอสที มองว่า หุ้น CK : บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) จะได้รับประโยชน์ และมีความน่าสนใจในภาวะที่สินค้ากลุ่มโลหะปรับตัวลง โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 26 บาท
เนื่องจาก CK เป็นผู้ประกอบการรับเหมาขนาดใหญ่ ซึ่งต้นทุนเหล็กคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 3-5% ของต้นทุนรวม นอกจากนี้ CK ยังมีแรงกระตุ้นการเติบโตจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบาง ที่คาดว่าสัญญาเหมาออกแบบจัดหาและก่อสร้าง (EPC) มูลค่าราว 8 หมื่นล้านบาท ที่คาดว่าได้ข้อสรุปในครึ่งปีหลังนี้
พร้อมแนะนำหุ้นอื่นๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ KCE : บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) ได้ประโยชน์จากราคาทองแดงที่ปรับตัวลง เนื่องจากเป็นต้นทุนวัตถุดิบหลักประมาณ 15% ของต้นทุนการขาย
CBG : บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ประโยชน์จากราคาอลูมิเนียมที่ปรับตัวลดลง มีสัดส่วนอยู่ประมาณ 20% ของต้นทุนวัตถุดิบรวม
SAT : บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) มีต้นทุนเหล็กคิดเป็นสัดส่วน 40% ของต้นทุนขาย โดยวัตถุดิบเหล็กที่ใช้จะเป็นเหล็กเกรดพิเศษ
นอกจากนี้ ก็จะมีหุ้นที่เสียผลประโยชน์จากราคาโลหะขาลง คือ หุ้นในกลุ่มขายปลีก-ขายส่งอุปกรณ์และวัสดุก่อสร้าง ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อราคาขายสินค้าหน้าร้านในอนาคต อย่างไรก็ดี ประเด็นคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด เพราะราคาพลังงานที่ยังผันผวนอยู่มากและรวดเร็ว
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- เจาะหุ้น CK ‘ช.การช่าง’ ใกล้กลับสู่ขาขึ้น คาด Backlog ไปถึงแสนล้าน
- กลุ่ม ช.การช่าง รับรางวัลบูธสวยงามยอดเยี่ยม งาน MONEY & BANKING AWARDS 2021
- กลุ่ม ช.การช่าง ร่วมงานมหกรรมการเงินครั้งที่ 21
