Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดลดไม่ถึง 100 จุด จับตาข้อมูล ‘จ้างงานนอกภาคเกษตร’ วันนี้

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (4 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ลดลงเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน เพราะแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่ก็ได้ปัจจัยบวกส่วนหนึ่งจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ (5 ส.ค.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,726.82 จุด ลดลง 85.68 จุด หรือ 0.26% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,151.94 จุด ลดลง 3.23 จุด หรือ 0.08% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 12,720.58 จุด เพิ่มขึ้น 52.42 จุด หรือ 0.41%

ดาวโจนส์

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งหลุดจากระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรล อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง

หุ้นคอยน์เบส ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี ทะยานขึ้น 10.01% หลังจากคอยน์เบสประกาศเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับริษัทแบล็คร็อค เพื่อให้บริการลูกค้ากลุ่มสถาบันในการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี รวมทั้งให้บริการรับฝากเงินดิจิทัล

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 6,000 ราย มาอยู่ที่ 260,000 ราย สูงสุดในรอบเกือบ 8 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 และยังสูงกว่าจำนวน 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐลดลง 6.2% สู่ระดับ 7.961 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน ส่วนการนำเข้าลดลง 0.3% สู่ระดับ 340,400 ล้านดอลลาร์ และการส่งออกเพิ่มขึ้น 1.7% สู่ระดับ 260,800 ล้านดอลลาร์

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งอาจบ่งชี้แนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ โดยคาดว่า จะเพิ่มขึ้น 258,000 ตำแหน่ง ในเดือนกรกฎาคม น้อยกว่าจำนวน 372,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo