Stock

กังวล ‘เศรษฐกิจถดถอย’ เกาะติดตลาด ฉุด ‘ดาวโจนส์’ ร่วง

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (4 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลในเรื่อง “เศรษฐกิจถดถอย” ยังเกาะติดตลาดอยู่

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 32,741.63 จุด ลดลง 70.87 จุด หรือ 0.22% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,152.45 จุด ขยับลงมา 2.72 จุด หรือ 0.07% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,692.67 จุด บวก 24.51 จุด หรือ 0.19%

ดาวโจนส์

นักลงทุนพากันกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยอีกครั้ง หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 6,000 ราย มาอยู่ที่ 260,000 ราย สูงสุดในรอบเกือบ 8 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2564 และยังสูงกว่าจำนวน 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดู ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ในวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.) ซึ่งอาจบ่งชี้แนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า จะเพิ่มขึ้น 258,000 ตำแหน่ง ในเดือนกรกฎาคม น้อยกว่าจำนวน 372,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.6%

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 0.9% ในไตรมาส 2 หลังจากหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 ซึ่งการที่เศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค

อย่างไรก็ดี นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า เขาไม่คิดว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากหลายภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจยังคงมีความแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงตลาดแรงงาน

ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) จัดการประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ พร้อมกับเตือนว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเข้าสู่ภาวะถดถอยตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2565 จนถึงสิ้นปี 2566

บีโออี ระบุว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะเผชิญภาวะถดถอยนานถึง 5 ไตรมาส ซึ่งเป็นช่วงเวลายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจโลกเผชิญวิกฤตการเงิน โดยรายได้ในภาคครัวเรือนของอังกฤษจะทรุดตัวลงอย่างหนักในปี 2565-2566 ขณะที่การบริโภคเริ่มหดตัว

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo