Stock

‘KBANK’ ตัวเต็งเข้า MSCI ส.ค.นี้ ลุ้นแรงซื้อนักลงทุนต่างชาติ

หลังจากหุ้น KBANK หรือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ถูกถอนออกจากการคำนวณของ MSCI Global Standard Indexes ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 เนื่องจากสัดส่วนของนักลงทุนต่างชาติ NVDR ที่ใกล้เต็มเพดาน 25% แต่ล่าสุดการประกาศรายชื่อหุ้น MSCI รอบใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้ พบว่า KBANK เป็นตัวเต็งเพียงรายเดียว

MSCI Global Standard Indexe จะทำการ MSCI Rebalance ปีละ 4 รอบ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ พฤษภาคม สิงหาคม และพฤศจิกายน โดยใช้หลักเกณฑ์ ดังนี้ หุ้นนั้นต้องมีสภาพคล่องในการซื้อขายสูง หุ้นต้องมี Free Float ขั้นต่ำ 15% และหุ้นต้องมีมูลค่าตลาด (Market Cap.) เมื่อคูณด้วย Free Float เป็นเปอร์เซ็นต์แล้วสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนด

ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดการณ์ว่า MSCI จะประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่ในวันที่ 11 สิงหาคมนี้ และจะมีการ Rebalance ในวันที่ 31 สิงหาคม 2565 และสำหรับ MSCI Thailand Index  เป็นการคำนวณหุ้นขนาดใหญ่และมีสภาพคล่องสูงในตลาดหุ้นไทย หุ้นที่มีโอกาสเข้าใหม่ครั้งนี้ คือ KBANK ส่วนหุ้นที่คาดว่าจะออก คือ BAM

เบื้องต้นประเมินว่าจะมีเงินจากนักลงทุนต่างประเทศ (Fund Flow) ไหลเข้ามาลงทุนในหุ้น KBANK ประมาณ 171 ล้านดอลลาร์ หรือไม่ต่ำกว่า 6,000 ล้านบาท  คิดเป็น 3 เท่าของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน เพราะปกติแล้วเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรายชื่อหุ้นที่ใช้คำนวณดัชนี MSCI หุ้นตัวนั้นมักจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนต่างประเทศ เนื่องจากถูกใช้เป็นเกณฑ์อ้างอิงในการปรับพอร์ตสำหรับกองทุนรวมดัชนีที่มีนโยบายแบบ Passive Fund นั่นเอง

KBANK2

สำหรับกลยุทธ์ในการลงทุน นักวิเคราะห์ บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” หุ้น KBANK ที่ราคาเป้าหมาย 190 บาทต่อหุ้น และควรระมัดระวังการลงทุนในหุ้น BAM เนื่องจากอาจจะมีการลดน้ำหนักก่อนวันประกาศรายชื่อจริง

เราได้มีการสำรวจข้อมูลการซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศในรอบเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีการซื้อสุทธิไปถึง 4,721.38 ล้านบาท นอกจากนี้ KBANK ยังติดอันดับ 5 ของหุ้นที่ต่างชาติซื้อสุทธิสูงสุด คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท สะท้อนถึงแรงเก็งกำไรล่วงหน้าได้พอสมควร

KBANK ยังมีปัจจัยบวกอื่นๆ ที่หนุนการเติบโต ไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มผลประกอบการที่คาดว่าจะดีต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2565 จากการขยายตัวของสินเชื่อ แนวโน้มการตั้งสำรองที่ผ่อนคลายลง รวมไปถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น

นักวิเคราะห์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 ของ KBANK จะดีขึ้นจากการตั้งสำรองที่ผ่อนคลายลง หลังผ่านการปรับชั้นลูกหนี้ครั้งใหญ่ไปแล้ว แม้จะยังมีการทยอยขายหนี้ให้กับ JKAMC และ Write-Off ลูกหนี้กลุ่มเสี่ยงอยู่บ้าง แต่จะไม่มากเท่ากับไตรมาส 2/2565 ที่ผ่านมา จึงประเมินต้นทุนความเสี่ยงจากการให้สินเชื่อ (Credit Cost) จะเริ่มผ่อนคลายลง

shutterstock 79462060

ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยคาดปรับขึ้นได้ต่อ จากแผนขยายสินเชื่อในกลุ่มลูกหนี้ SME และรายย่อย โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยประเมินสินเชื่อ และเพิ่ม Platform ใหม่ๆ เข้ามาใน Ecosystem เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้มากขึ้น ในส่วนของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยคาดปรับขึ้นเล็กน้อย จากธุรกิจประกันที่ฟื้นตัวและรายได้ค่าธรรมเนียมธนาคารที่สูงขึ้นตามพอร์ตสินเชื่อ

และหากเศรษฐกิจฟื้นตัว มองว่า KBANK จะเป็นธนาคารที่ได้รับประโยชน์มากสุดในกลุ่ม Banking Sector ดังนั้น คาดว่าทั้งปี 2565 KBANK จะมีกำไรสุทธิ 42,474 ล้านบาท เติบโต 11.6% จากปีก่อน ประเมิน Valuation ราคาหุ้นที่มี PBV ซื้อขาย 0.67 เท่า ถือว่าไม่แพง พร้อมโอกาสรับเงินปันผลประมาณ 2.8% อีกด้วย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน