Stock

‘ดาวโจนส์’ ร่วงไม่ถึง 100 จุด ‘แนสแด็ก’ ดิ่งเกือบ 2% ตลาดจับตา ‘ประชุมเฟด-จีดีพีไตรมาส 2’

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (22 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ขยับลงเล็กน้อย ส่วน “แนสแด็ก” ร่วงกว่า 200 จุด โดนแรงฉุดจากราคาหุ้น “สแนป อิงค์” เจ้าของแอป สแนปแชท ที่ดิ่งลง 35% หลังเปิดเผยผลประกอบการน่าผิดหวัง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 31,958.81 จุด ลดลง 78.09 จุด หรือ 0.24% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,967.51 จุด ลดลง 31.44 จุด หรือ 0.79% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,849.08 จุด ร่วงลง 210.53 จุด หรือ 1.75%

ดาวโจนส์

ราคาหุ้นบริษัททวิตเตอร์ อิงค์ พุ่งขึ้น 1% แม้บริษัทเปิดเผยรายได้ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 2 โดยได้รับผลกระทบจากรายได้โฆษณาที่ลดลง รวมทั้งข่าวที่ว่านายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเทสลา อิงค์ ประกาศยกเลิกข้อตกลงซื้อกิจการทวิตเตอร์

ขณะนี้บริษัทราว 21% ในดัชนีเอสแอนด์พี 500 เปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 2 แล้ว ซึ่งราว 70% ในจำนวนดังกล่าวได้รายงานกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทในดัชนีนี้ จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 4.2% ในไตรมาส 2 ขณะที่รายได้พุ่งขึ้น 10.2% รวมทั้งมีกำไรเพิ่มขึ้น 9.9% ในปีนี้

บรรยากาศการซื้อขายในตลาด เต็มไปด้วยความระวังตัว จากการที่นักลงทุน รอดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในสัปดาห์หน้า

ตลาดจับตาการประชุมของเฟดในสัปดาห์หน้า หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมวานนี้ (21 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ

การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว รุนแรงกว่าที่อีซีบีส่งสัญญาณในเดือนมิถุนายนว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพียง 0.25% ในเดือนกรกฎาคม

นักลงทุนลดคาดการณ์เกี่ยวกับการที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมเดือนนี้ หลังมีการเปิดเผยข้อมูลที่ระบุว่าผู้บริโภคได้ลดคาดการณ์เงินเฟ้อ ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดบางรายแสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.75% ในเดือนนี้ แทนที่จะปรับขึ้นอย่างรุนแรงถึง 1.00%

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 22.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมวันที่ 26-27 กรกฎาคมนี้ และให้น้ำหนัก 77.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

ก่อนหน้านี้ นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 80% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00%  และให้น้ำหนัก 20% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 28 กรกฎาคม หลังจากเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่าจีดีพี หดตัว 1.6% ในไตรมาส 1

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo