ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (5 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ลดลง จากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ แต่ “เอสแอนด์พี 500-แนสแด็ก” ปิดในแดนบวก แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นในช่วงท้ายตลาด ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 30,967.82 จุด ลดลง 129.44 จุด หรือ 0.42%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,831.39 จุด เพิ่มขึ้น 6.06 จุด หรือ 0.16% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 11,322.24 จุด เพิ่มขึ้น 194.39 จุด หรือ 1.75%
ตลาดตกอยู่ท่ามกลางแรงกดดัน จากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุด ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 2.1% ในไตรมาส 2 จากเดิมที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มหดตัว 1.0%
ตัวเลขคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในไตรมาส 2 รุนแรงกว่าไตรมาส 1 ซึ่งหดตัว 1.6% และแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอย่างหนัก หลังจากราคาน้ำมัน WTI ทรุดตัวลงกว่า 8% หลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนหุ้นกลุ่มที่ต้องพึ่งพาการขยายตัวของเศรษฐกิจ ก็ร่วงลงเช่นกัน รวมถึงหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มวัสดุ
อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve ที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีปรับตัวสูงกว่าอายุ 10 ปี ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า การหดตัวของเศรษฐกิจอาจจะผลักดันให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และการสื่อสาร โดยหุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 5.1% หุ้นทวิตเตอร์ บวก 0.39% หุ้นแอปเปิล ดีดขึ้น 1.89% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.3% หุ้นอัลฟาเบท ทะยานขึ้น 4.16% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.16 % หุ้นอเมซอน พุงขึ้น 3.6%
นักลงทุนยังจับตา การเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 14-15 มิถุนายน ที่มีกำหนดออกในวันนี้ (6 ก.ค.) ตามเวลาสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ (8 ก.ค.)
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นเพียง 250,000 ตำแหน่งในเดือนมิถุนายน ต่ำกว่าจำนวน 390,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม และคาดว่าอัตราการว่างงานเดือนมิถุนายน จะทรงตัวที่ระดับ 3.6%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสื่อรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อาจจะประกาศยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางส่วนจากจีนภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งหากมีการบังคับใช้ ก็ถือเป็นย่างก้าวสำคัญในการคลี่คลายความตึงเครียดด้านการค้าระหว่าง 2 ประเทศ หลังในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ไบเดนได้จัดการประชุมหลายครั้งร่วมกับคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจ เพื่อหารือเกี่ยวกับทางเลือกในการตัดสินใจที่จะยกเลิกมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ริเริ่ม
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กังวลหนัก! เศรษฐกิจสหรัฐ ไตรมาส 1 หดตัว 1.4% หวั่นมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอย
- ‘มอร์แกน สแตนลีย์’ ชี้ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ เสี่ยงถดถอย 50% แต่มั่นใจ ‘เฟด’ คุมเงินเฟ้อได้
- ยังไม่จบ! ‘เฟด’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง’ หลังปรับ 0.75% ครั้งใหญ่สุดรอบ 28 ปี