Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาด ขยับขึ้นไม่ถึง 100 จุด กังวล ‘พาวเวล’ ประกาศเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (29 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ขยับขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความผันผวน หลังประธานเฟด “เจอโรม พาวเวล” ส่งสัญญาณเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงก็ตาม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 31,029.31 จุด เพิ่มขึ้น 82.32 จุด หรือ 0.27% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,818.83 จุด ลดลง 2.72 จุด หรือ 0.07% และดัชนี แนสแด็ก ปิดที่ 11,177.89 จุด ลดลง 3.65 จุด หรือ 0.03%

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในการประชุมประจำปีของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจัดขึ้นที่โปรตุเกสว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มี เพื่อทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลง ซึ่งการกระทำดังกล่าวก็คือ การลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ดาวโจนส์

แม้จะมีความเสี่ยง แต่ก็มองว่านี่ไม่ใช่ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดต่อเศรษฐกิจ โดยความผิดพลาดมากกว่าที่อาจเกิดขึ้นก็คือ ความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา ดังนั้น จะป้องกันไม่ให้ภาวะเงินเฟ้อต่ำกลายเป็นภาวะเงินเฟ้อสูง โดยในระยะสั้น เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ถ้อยแถลงของนายพาวเวลส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย อาจส่งผลให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย

ล่าสุดทีมนักวิเคราะห์ของเจพี มอร์แกน ออกรายงานเตือนว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะถดถอยในปีนี้ เมื่อพิจารณาจากการหดตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และการที่เฟดส่งสัญญาณชัดเจนว่า จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

เมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของจีดีพีไตรมาส 1/2565 โดยระบุว่าจีดีพีหดตัว 1.6% จากเดิมที่รายงานว่าหดตัวเพียง 1.4% และ 1.5% ในตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ตามลำดับ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจีดีพีสหรัฐจะหดตัว 1.5% ในไตรมาส 1

ทั้งนี้ หากตัวเลขจีดีพีสหรัฐหดตัวต่อไปในไตรมาส 2/2565 ก็จะบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน

หุ้น 5 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ โดยหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหนักสุดหลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงเกือบ 2% แต่หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ดีดตัวขึ้น

นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ รายได้และการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพฤษภาคม ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (พีซีอี) เดือนพฤษภาคม ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมิถุนายน จากเอสแอนด์พี โกลบอล และดัชนีภาคการผลิตเดือนมิถุนายน ากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ไอเอสเอ็ม)

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo