ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (28 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงลงเฉียด 200 จุด หลังผลสำรวจบ่งชี้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทรุดตัวลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 31,238.90 จุดร่วงลง 199.36 จุด หรือ 0.63% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,856.70 จุด ลดลง 43.41 จุด หรือ 1.11% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,300.23 จุด ดิ่งลง 224.32 จุด หรือ 1.95%
ในช่วงเปิดตลาดนั้น ดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด โดยหุ้นกลุ่มเปิดเมือง เช่น สายการบิน เรือสำราญ โรงแรม และกาสิโน ต่างดีดตัวขึ้น ขานรับจีนประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19
ทั้งนี้ จีนประกาศลดระยะเวลากักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในสถานที่ซึ่งรัฐบาลจัดเตรียมไว้เหลือเพียง 7 วัน จากเดิม 14 วัน ส่วนการกักตัวที่บ้านพักหลังจากนั้น ลดลงเหลือเพียง 3 วัน จากเดิม 7 วัน
การผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวมีขึ้น หลังจากนครเซี่ยงไฮ้ และกรุงปักกิ่งประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยมีการประกาศเพิ่มการจ่ายเงินปันผล หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่าธนาคารส่วนใหญ่ผ่านการทดสอบภาวะวิกฤติ (Stress Test)
อย่างไรก็ดี ดาวโจนส์ร่วงลง หลังผลสำรวจของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด แสดงให้เห็นว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐทรุดตัวลงสู่ระดับ 98.7 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2556 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 100.0 จากระดับ 103.2 ในเดือนพฤษภาคม ผลจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และความวิตกว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นต่อสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ร่วงลงสู่ระดับ 147.1 ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้าดิ่งลงสู่ระดับ 66.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2556
การที่ดัชนีคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจดิ่งลงต่ำกว่าระดับ 80 บ่งชี้ถึงการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ รวมทั้งมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยในช่วงสิ้นปี
นักลงทุน ยังจับตาดูข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1 ปี 2565 ที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ (29 มิ.ย.) หลังตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.5% จากเดิมรายงานว่าหดตัวเพียง 1.4% ในตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.3%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในไตรมาส 1/65 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยในช่วงต้นปี 2563 โดยได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 และหากเศรษฐกิจสหรัฐหดตัวต่อไปในไตรมาส 2/65 ก็จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กังวลหนัก! เศรษฐกิจสหรัฐ ไตรมาส 1 หดตัว 1.4% หวั่นมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอย
- ‘มอร์แกน สแตนลีย์’ ชี้ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ เสี่ยงถดถอย 50% แต่มั่นใจ ‘เฟด’ คุมเงินเฟ้อได้
- ยังไม่จบ! ‘เฟด’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง’ หลังปรับ 0.75% ครั้งใหญ่สุดรอบ 28 ปี