Stock

‘ดาวโจนส์’ พุ่งกว่า 600 จุด ข้ามเส้น 31,000 จุดรอบใหม่ ขานรับคาดการณ์ ‘เงินเฟ้อ’ ลด

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (24 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ทะยานขึ้นมากว่า 600 จุด ทะลุแนว 31,000 จุด หลังมหาวิทยาลัยมิชิแกน เผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ผู้บริโภคสหรัฐได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 31,305.59 จุด ทะยานขึ้น 628.23 จุด หรือ 2.05% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,882.87 จุด ดีดขึ้น 87.14 จุด หรือ 2.30% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,484.29 จุด พุ่งขึ้น 252.10 จุด หรือ 2.24%

ดาวโจนส์

หุ้นทุกกลุ่มปรับตัวขึ้นในวันนี้ นำโดยกลุ่มพลังงาน สอดคล้องกับการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยตลาดมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 3 สัปดาห์ โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้น 3% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ดีดตัวขึ้น 4% และดัชนีแนสแด็ก ทะยานขึ้น 5%

นักลงทุนขานรับการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในวันนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดให้ความสนใจต่อตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐในช่วง 1 ปีข้างหน้า และ 5 ปีข้างหน้า หลังจากที่สหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบกว่า 40 ปี

ทั้งนี้ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดิ่งลงสู่ระดับ 50.0 ในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในช่วงทศวรรษ 1940 และต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 50.2 หลังจากแตะระดับ 58.4 ในเดือนพฤษภาคม และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 50.2

ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะ 5.3% ในช่วง 1 ปีข้างหน้า โดยสูงกว่าระดับ 4.2% ที่มีการสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ต่ำกว่าระดับ 5.4% ซึ่งเป็นตัวเลขเบื้องต้นที่มีการสำรวจเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว

สำหรับในช่วง 5 ปีข้างหน้า ผู้บริโภคคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะระดับ 3.1% โดยสูงกว่าระดับ 2.8% ที่มีการสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ต่ำกว่าระดับ 3.3% ซึ่งเป็นตัวเลขเบื้องต้นที่มีการสำรวจเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว และอยู่ในช่วง 2.9-3.1% ที่มีการสำรวจในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา

นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวอย่างชัดเจนหลังการประชุมนโยบายการเงินของเฟดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนว่า ผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เฟดเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมแม้เฟดจะคาดการณ์ว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.50% ก่อนหน้านั้นเพียง 1 สัปดาห์

นอกจากนี้ ในการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับ 3.4% ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งบ่งชี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.75% ภายในปีนี้ และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.8% ในสิ้นปี 2566 และชะลอตัวสู่ระดับ 3.4% ในปี 2567 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวอยู่ที่ 2.5%

การที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1.75% ภายในปีนี้ ทำให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนกรกฎาคม และ 0.50% ในเดือนกันยายน ก่อนที่จะปรับขึ้นเพียง 0.25% ในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo