ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (22 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พุ่งแรง 641.47 จุด จากการเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน และหุ้นเติบโต (Growth Stocks) ที่มีทุนจดทะเบียนสูง ขณะนักลงทุนรอฟัง “เจอโรม พาวเวล” แถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปี ต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 30,530.25 จุด พุ่งขึ้น 641.47 จุด หรือ 2.15%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,764.79 จุด เพิ่มขึ้น 89.95 จุด หรือ 2.45% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 11,069.30 จุด พุ่งขึ้น 270.95 จุด หรือ 2.51%
นักลงทุนช้อนซื้อหุ้นเป็นวงกว้าง หลังจากตลาดดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว โดยดาวโจนส์ และแนสแด็กต่างก็ร่วงลง 4.8% ส่วนเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 5.8% ทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดรายสัปดาห์ นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 และได้เข้าสู่ภาวะหมี
ปัจจัยกดดันตลาดในสัปดาห์ที่แล้วมาจากความกังวลที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งขึ้นดอกเบี้ย
หุ้นทุกลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 5.14% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ฟื้นตัว เช่นเดียวกับหุ้นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ และบริษัทผลิตชิป ที่ดีดขึ้นแรง
สัปดาห์นี้ นักลงทุนรอฟังการแถลงนโยบายการเงิน และภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปี ของนายพาวเวล ต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธที่ 22 มิถุนายน จากนั้นจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎร ในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยล่าสุดทีมนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ เตือนว่าขณะนี้มีโอกาส 30% ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ระดับ 15% สาเหตุส่วนใหญ่มาจากผลกระทบ ของการที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น และรุนแรงขึ้น เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กังวลหนัก! เศรษฐกิจสหรัฐ ไตรมาส 1 หดตัว 1.4% หวั่นมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอย
- ‘มอร์แกน สแตนลีย์’ ชี้ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ เสี่ยงถดถอย 50% แต่มั่นใจ ‘เฟด’ คุมเงินเฟ้อได้
- ยังไม่จบ! ‘เฟด’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง’ หลังปรับ 0.75% ครั้งใหญ่สุดรอบ 28 ปี