Stock

คัด ’14 หุ้นคุณค่าน่าสะสม’ สายอดทนเน้นตั้งรับ

บล. หยวนต้า  คัดเลือกหุ้นตามธีมการลงทุน Defensive & Value Play  กับ “14 หุ้นคุณค่าน่าสะสม” สายอดทนเน้นตั้งรับ รวมถึงหุ้นกลุ่มธุรกิจเกษตรอาหารที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาขาย

การลงทุนช่วงนี้เป็นโจทย์ใหญ่ที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ตัวเลขเงินเฟ้อของไทยเร่งตัวขึ้นไปถึง 7.1% สูงที่สุดในรอบ 13 ปี ส่วนนโยบายด้านการเงินก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน คำถามคือเรายังสามารถคว้าโอกาสการลงทุนที่ดีท่ามกลางสภาวะตลาดแบบนี้ได้หรือไม่?

ฝ่ายวิจัย บล. หยวนต้า จึงคัดเลือกหุ้นตามธีมการลงทุน Defensive & Value Play ประกอบด้วยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ CPALL, BJC, MAKRO, MTC, SAWAD, SINGER, TK, SAT, SAT รวมถึงหุ้นกลุ่มธุรกิจเกษตรอาหารที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและเงินบาทอ่อนค่า ได้แก่ TU, ASIAN, CFRESH, KSL และ TIPCO

คัด 14 หุ้นหน้าสะสม e1655435279297

โดยมีปัจจัยสำคัญเนื่องจากรายได้เกษตรกรเติบโตแบบ V-Shape ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดในเดือนตุลาคม 2564 และเร่งตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 10 เดือน เมื่อเดือนมีนาคม 2565 ปรับเพิ่มขึ้น 14.2% จากช่วงปีก่อน สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจการเกษตรที่เติบโต ประกอบด้วย อ้อย, สับปะรด, ยางพารา, ปาล์มน้ำมัน และผลไม้ เช่นเดียวกับด้านประมงจากการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ขณะที่ความต้องการสินค้าเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทั่วโลก ส่วนวิกฤตอาหารขาดแคลนยังคงเป็นเรื่องใหญ่ จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นผู้ผลิตและส่งออกข้าวสาลีคิดเป็น 1 ใน 3 ของโลก และส่งออกน้ำมันพืชจากเมล็ดดอกทานตะวันคิดเป็น 80% ของโลก อีกทั้งประเทศจีนมีการเร่งนำสินค้าการเกษตรเพื่อ Re-Stock หลังคลายล๊อกดาวน์อีกด้วย

นอกจากนี้ รายได้ภาคเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, ค้าปลีก,ไฟแนนซ์ และอุปกรณ์การเกษตร เพราะฉะนั้น จึงให้น้ำหนักกับการลงทุนในธีม Defensive & Value Play ที่เน้นกลยุทธ์ตั้งรับเป็นหลัก

หุ้นคุณค่าน่าสะสม1

หุ้นคุณค่าน่าสะสม2

หมายเหตุ : รวบรวมข้อมูล ณ มิถุนายน 2565 (SINGER, TK, ASIAN, CFRESH, KSL, TIPCO ยังไม่มีประมาณการณ์ราคาเป้าหมายและคำแนะนำการลงทุน)

ความผันผวนเป็นโจทย์ใหญ่ของการลงทุน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาส หากพอร์ตของเรายังเป็นหุ้นคุณค่าก็สามารถ Stay Invested ต่อไปได้ ส่วนเงินลงทุนใหม่ในหุ้นเติบโตช่วงนี้อาจจะใช้กลยุทธ์ Buy on dip โดยเข้าลงทุนเพิ่มในหุ้นที่มีเทรนด์เป็นขาขึ้นเมื่อราคาย่อตัวลงมา เพื่อช่วยให้เราได้ต้นทุนที่ต่ำลง ซึ่งหัวใจสำคัญอยู่ที่การอดทนต่อความผันผวนนั่นเอง

หมายเหตุ | บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำ หรือแนะนำให้ซื้อ ถือหรือขายหุ้นแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
แชร์วิธีคิด แบ่งปันความรู้ การเงิน การลงทุน