Stock

‘ซีพีไอ’ พุ่งสุดรอบกว่า 40 ปี ทุบหุ้นสหรัฐ ‘ดาวโจนส์’ ดิ่งกว่า 700 จุด ‘แนสแด็ก’ ร่วงเกิน 3%

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (10 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ดิ่งเกิน 700 จุด หลังดัชนีราคาผู้บริโภคพุ่งสูงเกินคาด ทำให้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นว่า “เฟด” จะเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดขาขึ้นของเงินเฟ้อ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 31,510.57 จุด ดิ่งลง 762.22 จุด หรือ 2.36% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,908.86 จุด ร่วงลง 108.96 จุด หรือ 2.71% และดัชนีแนสแด็กที่ 11,354.85 จุด ทรุดลงไปถึง 399.37 จุด หรือ 3.40%

หุ้นทุกกลุ่มในตลาดร่วงลงในวันนี้ ไม่เว้นแม้แต่หุ้นกลุ่มธนาคาร ซึ่งมักได้รับอานิสงส์จากภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น

ดาวโจนส์

วันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.6% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดครั้งใหม่ในรอบกว่า 40 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2524 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.3%  ทั้งยังสูงกว่าระดับ 8.3% ในเดือนเมษายน และสูงกว่าระดับ 8.5% ที่ทำไว้ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2524

นอกจากนี้ เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนีซีพีไอเพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเดือนที่แล้ว สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.7%

ขณะเดียวกัน ดัชนีซีพีไอพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 6.0% ในเดือนพฤษภาคม เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.9% และเมื่อเทียบรายเดือน ดีดตัวขึ้น 0.6% สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.5%

ตลาดยังถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นเหนือระดับ 3.1% ของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งพันธบัตรประเภทนี้ ถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก รวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่าง ๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo