Stock

บอนด์ยีลด์พุ่ง-ว่างงานสูงเกินคาด กด ‘ดาวโจนส์’ ร่วงต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ เปิดซื้อขายวันนี้ (9 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ยังร่วงต่อเนื่อง ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เต็มไปด้วยความผันผวน และ “หุ้นเติบโต” ที่ยังไร้ทิศทางเคลื่อนไหวชัดเจน แรงกดดันจากการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขคนว่างงานที่สูงเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 32,779.13 จุด ร่วงลง 131.77 จุด หรือ 0.40% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,095.16 จุด ลดลง 20.61 จุด 0.50% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,012.97 จุด ปรับลงมา 73.30 จุด หรือ 0.61%

หุ้น 9 กลุ่ม ใน 11 กลุ่มของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลงมา โดยที่หุ้นกลุ่มพลังงาน และวัสดุ ร่วงลงมากสุด

ดาวโจนส์

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 3% ในวันนี้ ขานรับผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งได้ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม และจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี

อีซีบี ยังประกาศยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน เร็วกว่าที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ โดยจะปูทางสำหรับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม เพื่อสกัดเงินเฟ้อในยูโรโซนที่พุ่งแตะระดับ 8.1% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2540 และสูงกว่าเป้าหมายของอีซีบีที่ระดับ 2%

ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีถือเป็นพันธบัตรที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโล ก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง หากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้น จะทำให้บริษัทต่าง ๆ เผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นจากการชำระหนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทเหล่านี้ลดการลงทุน และลดการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 27,000 ราย สู่ระดับ 229,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 210,000 ราย

ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าว ยังอยู่สูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

นักลงทุนจับตา การรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ในวันพรุ่งนี้ หลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (พีซีอี) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว

นอกจากนี้ ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 มิถุนายน โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมดังกล่าว รวมทั้งในการประชุมเดือนกรกฎาคม เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo