จับตา ” CKPower ” โรงไฟฟ้าพลังน้ำ เข้าสู่ไฮซีซั่น บล.เคทีบีเอสที ประเมิน CKP จะปรับตัวขึ้นโดดเด่น ไตรมาส 2 และ 3 จากการเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ขณะ ฟินันเซีย ไซรัส ประเมิน แนวโน้มไตรมาส 2 และ 3 แข็งแกร่งขึ้น
บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น CKP เป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ปัจจุบันมีกำลังการผลิตติดตั้ง 2,167 MW โดยมีโครงการสำคัญอย่างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (Hydro Power) น้ำงึม 2 และไชยะบุรี ซึ่งดำเนินการผลิตไฟฟ้าในประเทศลาว นอกจากนี้ ยังมีโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม จำนวน 2 แห่ง และโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 แห่ง
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2565 บริษัทมีรายได้รวม 2,543 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้นนั้นส่งผลให้รายได้ในส่วนของโรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น ปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 39 ล้านบาท ปรับลดลง 66.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
” CKPower” หุ้นโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ CKP เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกจะยังคงผันผวน และอยู่ในระดับสูงต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ดี สถานการณ์น้ำของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี มีแนวโน้มดีกว่าปีก่อน โดยในไตรมาสแรกมีปริมาณน้ำไหลเข้าโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 เพิ่มขึ้น 86.9% และปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี เพิ่มขึ้น 23.2% หากสถานการณ์น้ำยังคงดีต่อเนื่อง โรงไฟฟ้าพลังน้ำทั้ง 2 แห่ง จะเป็นปัจจัยบวกช่วยหนุนภาพรวมผลการดำเนินงานให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
สำหรับทิศทางและเป้าหมายธุรกิจในปี 2565 ทาง CKP มุ่งเน้นสู่การเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าที่มีระดับ Carbon Footprint ต่ำที่สุดรายหนึ่ง เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทยที่ต้องการมุ่งสู่สังคมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Greenhouse Gas Emissions) ภายในปี 2608 โดยบริษัทตั้งงบลงทุน 2,600 ล้านบาท เพื่อเพิ่มทุนตามสัดส่วนในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำแห่งใหม่ในลาว และลงทุนเพิ่มเติมในโครงการพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำ และพลังงานลม

CKPower ไตรมาส 2/2565 เข้าสู่ไฮซีซั่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำ
ปกติแล้วช่วงที่มีกำลังการผลิตดีที่สุดของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ คือ ประมาณช่วงกลางปี เพราะจะเข้าสู่ฤดูฝนที่มีประมาณน้ำสูงขึ้น ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ บล.เคทีบีเอสที เปิดเผยว่า ประเมินผลการดำเนินงาน CKP จะปรับตัวขึ้นโดดเด่นในไตรมาส 2 และ 3 จากการเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ดังนั้น จึงประมาณการรายได้ทั้งปี 2565 อยู่ที่ 9,344 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.2% จากปีก่อน และมีกำไรปกติ (Core profit) อยู่ที่ 2,152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อน
ส่วนในแง่ของราคาหุ้นที่ outperform SET ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาราว 16% คาดว่ามาจากการตอบรับการลงนาม MOU Tariff โครงการหลวงพระบางเป็นที่เรียบร้อย ประเมินว่าราคาหุ้นจะยัง outperform SET ต่อไปจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของโรงไฟฟ้าหลักในไตรมาส 2 ต่อเนื่องไปไตรมาส 3 และหากอิงข้อมูลสถิติย้อนหลัง 8 ปี นับตั้งแต่ CKP เข้าตลาดฯ พบว่าราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 30% จากในช่วงเริ่มไตรมาส 2 จนจบไตรมาส 3
ดังนั้น จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CKP ที่ราคาเป้าหมาย 7.40 บาท โดยมีปัจจัยบวกสำคัญ คือการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เพิ่มเติม ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเป็น 4,800 MW ภายในปี 2567 และเพิ่มสัดส่วนกำลังการผลิตจากพลังงานหมุนเวียนให้ไม่ต่ำกว่า 95% ของกำลังการผลิตรวมทั้งหมด
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินว่าแนวโน้มไตรมาส 2/2565 และไตรมาส 3/2565 ของ CKP จะแข็งแกร่งขึ้น เนื่องจากกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังน้ำจะเพิ่มขึ้นตามกระแสน้ำที่สูงขึ้นตามฤดูกาล รวมทั้งกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้ไฟฟ้าที่สูงจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาเต็มรูปแบบ จึงคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิปี 2565 จะเติบโตเป็น 3,103 ล้านบาท
พร้อมทั้งคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น CKP ที่ราคาเป้าหมาย 6.60 บาท เนื่องจากมองว่าเป็นหุ้นที่ยังน่าดึงดูดในฐานะผู้ที่ได้รับผลประโยชน์หลักจากกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งขึ้นจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ นำงึม 2 และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไชยะบุรี
หมายเหตุ | บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำหรือแนะนำให้ซื้อ ถือหรือขายหุ้นแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘CKPower’ เปิดรายได้ไตรมาส 1 ปี 65 เพิ่มขึ้น 442 ล้านบาท
- ‘CKPower’ สร้างสถิติใหม่ ผลประกอบการปี 2564 สูงสุดเป็นประวัติการณ์
- ‘CKPower’ ตอกย้ำผู้นำโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ผ่านมาตรฐานระดับโลก ISO มุ่งสู่อนาคต ‘พลังงานสะอาด’