ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (16 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” บวกเพียง 26.76 จุด ส่วน “เอสแอนด์พี 500” และ “แนสแด็ก” ร่วงลง หลังจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งเพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ในช่วงเวลาที่เฟดอาจกำลังเร่งขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,223.42 จุด เพิ่มขึ้น 26.76 จุด หรือ 0.08%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,008.01 จุด ลดลง 15.88 จุด หรือ 0.39% และดัชนี แนสแด็ก ปิดที่ 11,662.79 จุด ลดลง 142.21 จุด หรือ 1.20%
ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเมื่อวานนี้ เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์ได้ส่งผลกระทบต่อการอุปโภคบริโภค, การผลิต และตลาดแรงงาน โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจจีนอาจจะหดตัวลงในไตรมาส 2 ปีนี้
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน รายงานยอดค้าปลีกเดือนเมษายน ร่วงลง 11.1% ในเดือน ย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 6.1% และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเมษายน ลดลง 2.9% สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%
ส่วนยอดค้าปลีกในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ลดลง 0.2% และการผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วง 4 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 4% รายงาน ระบุด้วยว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 6.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 7%
สำหรับอัตราว่างงานของจีนในเดือนเมษายน พุ่งขึ้นแตะระดับ 6.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2563 จากระดับ 5.8% ในเดือนมีนาคม
หุ้น 7 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยร่วงลง 2.12% ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง 0.91% นำโดยหุ้นทวิตเตอร์ ที่ดิ่งลง 8.1% และหุ้นเทสลา ร่วงลง 5.88% หลังนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา บอกว่า มูลค่าการซื้อกิจการทวิตเตอร์ ควรจะอยู่ต่ำกว่า 44,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นราคาที่เขาเสนอซื้อก่อนหน้านี้
ราคาหุ้นทวิตเตอร์ยังได้รับแรงกดดันจากการที่นายมัสก์กล่าวว่า เขาจะพักการเจรจาข้อตกลงในการซื้อกิจการทวิตเตอร์เป็นการชั่วคราว จนกว่าเขาจะได้รับข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับจำนวนบัญชีปลอมบนทวิตเตอร์ โดยนายมัสก์กล่าวว่าภารกิจแรกของเขาคือการกวาดล้าง “spam bots” ออกจากทวิตเตอร์
อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมัน ดีดตัวขึ้นกว่า 3% ขานรับข่าวเซี่ยงไฮ้วางแผนยุติมาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ร่วงลงแตะระดับ -11.6 ในเดือนพฤษภาคม จากระดับ 24.6 ในเดือนเมษายน โดยดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 0 บ่งชี้ถึงการหดตัวของภาคการผลิตในนิวยอร์ก
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ตามคาด! ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ‘พาวเวล’ ส่งสัญญาณขึ้นต่อเนื่อง ปัดแนวโน้มขึ้นแรง 0.75%
- ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หั่นคาดการณ์ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ปี 65 โตแค่ 2.8%
- ‘เฟด’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ ยืนยันยุติ ‘คิวอี’ ตามแผนเดิม