Stock

ตลาดหุ้นสหรัฐ ทรุดหนัก! ‘ดาวโจนส์’ ร่วง 653.67 จุด ‘เอสแอนด์พี 500’ หลุดเส้น 4,000 จุด ครั้งแรกรอบกว่า 1 ปี

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (9 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ดิ่งหนัก ส่วน “เอสแอนด์พี 500” หลุดเส้น 4,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี เหตุนักลงทุนเทขายหุ้นตัวใหญ่อย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกที่เพิ่มมากขึ้น ถึงการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติสหรัฐ 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,245.70 จุด ร่วงลง 653.67 จุด หรือ -1.99%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,991.24 จุด ลดลง 132.10 จุด หรือ 3.20% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 11,623.25 จุด ลดลง 521.41 จุด หรือ 4.29%

ตลาดหุ้น

นักวิเคราะห์ ระบุว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาด ถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า เศรษฐกิจอาจเผชิญภาวะถดถอย หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งขึ้นดอกเบี้ย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญกับปัจจัยลบจำนวนมาก รวมถึง อัตราเงินเฟ้อสูง ผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิถุนายนนี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 19% เมื่อเดือนที่แล้ว

ตลาดยังวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว หลังรัฐบาลแดนมังกร ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19

ทั้งล่าสุด จีนยังเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 3.9% ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 และชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนมีนาคม ที่ขยายตัว 14.7%

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 8.3% ดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง 4.62% และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561

นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพุธนี้ (11 พ.ค.) ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในการประชุมเดือนมิถุนายน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo