ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (9 พ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ดิ่งหนัก ส่วน “เอสแอนด์พี 500” หลุดเส้น 4,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี เหตุนักลงทุนเทขายหุ้นตัวใหญ่อย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกที่เพิ่มมากขึ้น ถึงการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 32,245.70 จุด ร่วงลง 653.67 จุด หรือ -1.99%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,991.24 จุด ลดลง 132.10 จุด หรือ 3.20% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 11,623.25 จุด ลดลง 521.41 จุด หรือ 4.29%
นักวิเคราะห์ ระบุว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาด ถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า เศรษฐกิจอาจเผชิญภาวะถดถอย หากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งขึ้นดอกเบี้ย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญกับปัจจัยลบจำนวนมาก รวมถึง อัตราเงินเฟ้อสูง ผลกระทบของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่เป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 75% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมวันที่ 14-15 มิถุนายนนี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 19% เมื่อเดือนที่แล้ว
ตลาดยังวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว หลังรัฐบาลแดนมังกร ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ เพื่อสกัดการระบาดของโควิด-19
ทั้งล่าสุด จีนยังเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 3.9% ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 และชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนมีนาคม ที่ขยายตัว 14.7%
หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 8.3% ดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง 4.62% และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561
นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพุธนี้ (11 พ.ค.) ซึ่งอาจมีผลต่อการตัดสินใจกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในการประชุมเดือนมิถุนายน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ตามคาด! ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ‘พาวเวล’ ส่งสัญญาณขึ้นต่อเนื่อง ปัดแนวโน้มขึ้นแรง 0.75%
- ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หั่นคาดการณ์ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ปี 65 โตแค่ 2.8%
- ‘เฟด’ ส่งสัญญาณ ‘ขึ้นดอกเบี้ย’ ยืนยันยุติ ‘คิวอี’ ตามแผนเดิม