Stock

‘ดาวโจนส์’ ร่วงเกือบ 500 จุด ‘แนสแด็ก’ ดิ่ง 2.73% กังวลเศรษฐกิจโตช้า จับตาผลประกอบการ ‘หุ้นตัวใหญ่’

ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (26 เม.ย.) โดยที่ “ดาวโจนส์” ดิ่งลงเกือบ 500 จุด ส่วน “แนสแด็ก” ร่วงลงมาเกือบ 3% ก่อนหน้าการเปิดเผยผลประกอบการของบรรดาหุ้นตัวใหญ่ในตลาด ท่ามกลางความกังวลถึงการชะลอตัว ในการเติบโตของเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มที่เฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 33,552.76 จุด ดิ่งลง 496.70 จุด หรือ 1.46% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 4,225.03 จุด ลดลง 71.09 จุด หรือ 1.65% และดัชนีแนสแด็กที่ 12,650.46 จุด ร่วงลง 354.39จุด หรือ 2.73%

ดาวโจนส์

นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทไมโครซอฟท์ และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล หลังจากปิดตลาดวันนี้ ส่วนบริษัทแอปเปิ้ล อเมซอน รวมถึง เมตา แพลตฟอร์มส์ หรือเฟซบุ๊ก จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้

บริษัทจดทะเบียน 102 แห่งในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกแล้ว โดย 77.5% ในจำนวนดังกล่าวมีกำไรสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ตลาดยังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 3-4 พฤษภาคมนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินการเร็วขึ้นเพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ และระบุว่ามีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% นับตั้งแต่ปี 2543

นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงขึ้นหลังเดือนพฤษภาคม โดยอาจปรับขึ้น 0.75% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

อย่างไรก็ดี ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวสวนทางตลาด โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น แรงหนุนจากการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไร โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ส่งมอบเดือนมิถุนายน ในตลาดไนเม็กซ์ บวก 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.07%  มาอยู่ที่ระดับ 99.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ บวก 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.19% มาอยู่ที่ 103.54 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo