ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (25 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” พลิกกลับมาปิดในแดนบวกได้ แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อในช่วงท้ายตลาด ขณะ “แนสแด็ก” พุ่งขึ้นกว่า 1% หลังราคาหุ้น “ทวิตเตอร์” ทะยานขึ้นกว่า 5% ขานรับข่าว “อีลอน มัสก์” บรรลุข้อตกลงซื้อกิจการ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 34,049.46 จุด เพิ่มขึ้น 238.06 จุด หรือ 0.70% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,296.12 จุด เพิ่มขึ้น 24.34 จุด หรือ 0.57% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 13,004.85 จุด เพิ่มขึ้น 165.56 จุด หรือ 1.29%
ในช่วงแรกนั้น ดาวโจนส์ดิ่งลงเกือบ 500 จุด ซึ่งเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ดัชนีร่วงลงเกือบ 1,000 จุด ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ดี ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นในช่วงท้ายตลาด เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อ
หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย พุ่งขึ้น 1.44% ปัจจัยหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ร่วงลงสู่ระดับ 2.797%
หุ้นทวิตเตอร์ พุ่งขึ้น 5.66% หลังบริษัทประกาศยอมรับข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่า 44,000 ล้านดอลลาร์ จากนายอีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก
ทางด้านนายจิม จอร์แดน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐสังกัดพรรครีพับลิกัน ขานรับข่าวการซื้อกิจการทวิตเตอร์ของนายมัสก์ โดยมองว่าเป็นผลดีต่อเสรีภาพในการพูดและการแสดงออกตามที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญสหรัฐ
อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 3.34% หลังจากราคาน้ำมันเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ดิ่งลงกว่า 3% โดยหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 2.20% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ดิ่งลง 4.47% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 3.37% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทรุดลง 6.26%
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงแอปเปิ้ล เมตา แพลตฟอร์มส์ ไมโครซอฟท์ อเมซอน และอัลฟาเบท ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของกูเกิล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หั่นคาดการณ์ ‘เศรษฐกิจสหรัฐ’ ปี 65 โตแค่ 2.8%
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 65-66 เหตุ ‘สงครามยูเครน’ จ่อยืดเยื้อ เตือนภัย ‘เงินเฟ้อ’
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ มอง ‘วิกฤติยูเครน’ ทำ ‘เศรษฐกิจเอเชีย’ ผันผวนมากขึ้น ชี้ยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งกระทบ ‘ราคาน้ำมัน’