Stock

พรีวิว ‘3 หุ้นแบงก์ใหญ่’ ก่อนประกาศงบโค้งแรก ปี 2565

พรีวิว “3 หุ้นแบงก์ใหญ่” ก่อนประกาศงบโค้งแรก ปี 2565 ช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนเมษายน ระหว่างวันที่ 18 – 22 เม.ย.นี้ รอลุ้นกำไรสุทธิและการเติบโตของแต่ละแบงก์ 

ปัจจุบันเมื่อพูดถึงธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในประเทศไทย ที่มีธุรกิจครอบคลุมแทบจะทุกผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และมีจำนวนสาขากระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ขณะเดียวกันก็เป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่มีความเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ เชื่อว่าคงต้องธนาคาร 3 แห่งนี้ ได้แก่ SCB หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) KBANK หรือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) BBL หรือ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)

 หุ้นแบงก์ใหญ่

เนื่องด้วยกำลังจะเข้าสู่ฤดูประกาศผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร ประมาณช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนเมษายน ระหว่างวันที่ 18 – 22 เมษายนนี้ บทความนี้จึงอยากจะพามาพรีวิวผลประกอบการ พร้อมเทียบความแข็งแกร่งของทั้ง 3 หุ้นธนาคาร SCB KBANK และ BBL

หุ้นแบงก์ใหญ่ รอผลประกอบการในไตรมาส

ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์พาย จำกัด (มหาชน) หรือ Pi Securities เผยแพร่บทวิเคราะห์คาดการณ์กลุ่มธนาคาร ก่อนประกาศผลประกอบการในไตรมาส 1/2565 โดยมีมุมมองว่าแม้จะมีความท้าทายมากขึ้นในอนาคต แต่ภาพรวมกำไรสุทธิจะเติบโตแข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสที่ผ่านมา

 หุ้นแบงก์ใหญ่

โดยมองว่า SCB ยังคงมีกำไรที่เติบโตมั่นคง คุณภาพสินเชื่อที่ดี และมูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูด เพราะราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าไม่แพง ด้วยการซื้อขายเพียงที่ PBV เพียง 0.8 เท่า ส่วนการปรับลดอันดับของ S&P Global Rating คาดจะส่งผลกระทบจำกัดต่อพื้นฐานของธนาคาร อย่างไรก็ดี ประเด็นของการเข้าลงทุนใน Bitkub ยังมีความน่ากังวลอยู่ เพราะถึงแม้ธนาคารจะมีระดับเงินกองทุนเพียงพอ ทว่ากฎเกณฑ์ใหม่ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะควบคุมการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล นั้นอาจกระทบศักยภาพการเติบโตในอนาคตได้

ด้าน KBANK เป็นหุ้นที่สะท้อนการเติบโตได้ดีตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ ส่วนสำรองหนี้ฯ ก็เพียงพอต่อ NPLs เช่นเดียวกับมูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูด เพราะซื้อขายเพียงที่ PBV เพียง 0.7 เท่า และจะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากการปรับลดอันดับของ S&P Global Rating จากต้นทุนดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้นราว 300-400 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็น 0.6-0.7% ต่อประมาณกำไรทั้งปี

สุดท้าย BBL ถือว่าภาพรวมการเติบโตมั่นคงและมีงบดุลที่ยืดหยุ่น ด้วยการที่มุ่งเน้นสินเชื่อกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อระหว่างประเทศ ทำให้จะได้รับผลกระทบน้อยกว่าคู่แข่งท่ามกลางช่วงที่หนี้ครัวเรือนสูงและสถานการณ์ความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ทั้งนี้ ปัจจุบัน BBL ซื้อขายที่ PBV เพียง 0.5 เท่า ถือว่ามูลค่าหุ้นน่าดึงดูดมาก

หมายเหตุ | บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำหรือแนะนำให้ซื้อ ถือหรือขายหุ้นแต่อย่างใด ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight