Stock

‘ดาวโจนส์’ ปิดตลาดร่วง 448 จุด ‘น้ำมัน’ ราคาพุ่งเกือบถึง 115 ดอลล์ ทำนักลงทุนกังวล ‘เงินเฟ้อ’

ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (23 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ร่วงหนักกว่า 400 จุด เหตุนักลงทุนกังวลว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ เร่งขึ้นดอกเบี้ย 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 34,358.50 จุด ลดลง 448.96 จุด หรือ 1.29%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,456.24 จุด ลดลง 55.37 จุด หรือ 1.23% และดัชนี แนสแด็กปิดที่ 13,922.60 จุด ลดลง 186.21 จุด หรือ 1.32%

ดาวโจนส์

ตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่วา การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมัน จะส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ และบั่นทอนการเติบโตของเศรษฐกิจ อีกทั้งจะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งขึ้นดอกเบี้ย

เมื่อวานนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนเมษายน ปิดตลาดพุ่งขึ้น 5.66 ดอลลาร์ หรือ 5.2% มาอยู่ที่ 114.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กำหนดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 6.12 ดอลลาร์ หรือ 5.3% ปิดที่ 121.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันทะยานสูงขึ้น หลังมีรายงานว่า “แคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม” (ซีพีซี) บริษัทน้ำมันคาซัคสถาน ระงับการส่งออกน้ำมัน เพราะได้รับความเสียหายจากพายุ

รายงานข่าวระบุว่า โรงงานขนถ่ายน้ำมัน 2 แห่งของซีพีซี ที่ทะเลดำ ได้รับความเสียหายจากพายุ และการซ่อมแซมต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือนครึ่ง ส่วนโรงงานแห่งที่ 3 ของบริษัท ไม่ได้รับความเสียหาย แต่ก็ยังเปิดไม่ได้ เพราะสภาพอากาศเลวร้าย

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 1.84%  และ กลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง 1.77% แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ช่วยหนุนให้ ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.74%

อ่านข่าวเพิ่มเติม

Avatar photo