ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (22 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ “ดาวโจนส์” ทะยานขึ้นกว่า 200 จุด และแนสแด็กดีดตัวขึ้น เกือบ 2% จากการเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และนักลงทุนเริ่มปรับตัวรับสัญญาณจากเฟด ในเรื่องการเร่งขึ้นดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 34,807.46 จุด เพิ่มขึ้น 254.47 จุด หรือ 0.74%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 4,511.61 จุด เพิ่มขึ้น 50.43 จุด หรือ 1.13% และดัชนี แนสแด็ก ปิดที่ 14,108.82 จุด เพิ่มขึ้น 270.36 จุด หรือ 1.95%
นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้ตลาดจะร่วงลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (21 มี.ค.) หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะเร่งขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ แต่ดูเหมือนว่า ขณะนี้นักลงทุนเริ่มปรับตัวรับสัญญาณดังกล่าวแล้ว และมองว่าสิ่งที่ควรทำในขณะนี้คือ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่ก็คาดหวังในสิ่งที่ดีที่สุด
ทั้งนี้ นายพาวเวลได้กล่าวในการประชุมสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐแข็งแกร่งมาก และอัตราเงินเฟ้อ ก็อยู่ในระดับสูงเกินไป ทำให้เฟด ต้องสร้างความเชื่อมั่นว่า ตัวเลขเงินเฟ้อจะกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง และหากเห็นว่าจำเป็น เฟดก็จะขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมครั้งหนึ่ง หรือหลายครั้ง
นักลงทุนยังเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร หลังจากราคาหุ้นร่วงลงอย่างหนัก เช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ดีดตัวขึ้น หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นเหนือระดับ 2.3%
ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแรงลงตามทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมา หลังชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) เสียงแตกเรื่องการคว่ำบาตรน้ำมันจากรัสเซีย โดยเฉพาะเยอรมนี ที่ต้องพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียอย่างมาก
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท กำหนดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 111.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ กำหนดส่งมอบเดือนพฤษภาคม ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 115.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ‘แบงก์ชาติ’ เคลียร์ชัด! หลัง S&P หั่นอันดับความน่าเชื่อถือ 4 แบงก์ใหญ่
- ‘ไอเอ็มเอฟ’ เตือน ‘เศรษฐกิจเกิดใหม่’ จัดมาตรการ รับมือ ‘เฟด’ ขึ้นดอกเบี้ย
- ห่วงวิกฤติรัสเซีย-ยูเครน ดันราคาพลังงานทะยานขึ้น กระทบเงินเฟ้อเป็นโดมิโน